กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--กทม.
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้ตนเข้าพบ พล.ต.ต.กมล แก้วสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อติดตามความคืบหน้าการพิจารณาจุดทบทวน 466 จุด ที่ กทม.เสนอขอให้เป็นจุดผ่อนผัน โดยเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.48) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ได้อนุมัติและเซ็นคำสั่งเห็นชอบให้จุดทบทวนทั้ง 466 เป็นจุดผ่อนผันอย่างถูกต้อง ซึ่งที่ผ่านมาแม้ว่าจุดทบทวนดังกล่าวจะมีการทำการค้าอยู่แล้ว แต่เนื่องจากยังไม่ได้ รับการอนุมัติอย่างถูกต้องจึงไม่สามารถกำหนดขนาดพื้นที่ และแผงค้าให้เหมาะสมและเป็นระเบียบได้ ซึ่งจากนี้ไป กทม.จะนำจุด ผ่อนผันที่มีอยู่เดิม 268 จุดและจุดผ่อนผันที่ผ่านการเห็นชอบในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 734 จุด นำไปสู่การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยต่อไป
สำหรับ การดำเนินการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ขณะนี้ยู่ระหว่างการตรวจสอบความเหมาะสมของพื้นที่และการพิสูจน์สิทธิผู้ค้า โดยคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย จะกำหนดขนาดแผงค้าให้มีความเหมาะสม และเท่าเทียมกัน พร้อมที่จะจัดวางผู้ค้าที่ได้รับสิทธิ์ทำการค้าอย่างถูกต้องได้ อย่างไรก็ตาม หากจุดผ่อนผันใดที่มีการปรับเปลี่ยนสภาพพื้นที่เป็น ป้ายรถเมล์ สะพานลอยคนข้าม สวนสาธารณะ หรืออื่นๆ ใดที่เป็นทางสัญจรของประชาชน หรือไม่เหมาะสมตามเงื่อนไขของระเบียบการตั้งวางจุดหาบเร่ แผงลอย กทม.จะยกเลิกจุดผ่อนผันนั้นทันที โดยจะจัดหาสถานที่ทำการค้าที่เหมาะสมให้ต่อไป แต่จะไม่มีการขออนุมัติจุดผ่อนผันใหม่เพิ่มเติม นอกจากนี้ กทม.จะดำเนินการปรับปรุงแผงค้าให้สวยงามเหมาะสมกับพื้นที่และสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ แต่จะไม่ใช่แผงค้าถาวร อีกทั้งจะไม่มีการจ้างเอกชนเข้ามาดำเนินการ เนื่องจากกทม.มีแผนที่จะลดจำนวนแผงค้าให้ได้ปีละ 10 % และหมดไปภายใน 10 ปี ตามยุทธศาสตร์การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย
ภายหลังจากจัดระเบียบทั้งหมด หากผู้ค้ารายใดตั้งวางสินค้าในพื้นที่ห้ามขาย หรือ หากผู้ค้ารายใดมีการเซ้งแผงค้า กทม.จะยึดสิทธิ์ทำการค้าและยุบเลิกแผงค้านั้นทันที โดยจะไม่มีการเพิ่มผู้ค้ารายใหม่เข้ามาแทนที่ เพื่อลดจำนวนผู้ค้าในที่สาธารณะตาม ยุทธศาสตร์ที่กำหนด นอกจากนี้ในส่วนของผู้ค้าที่ไม่ได้รับสิทธิ์และฝ่าฝืนทำการค้านอกจุดที่กำหนด กทม.จะเก็บค่าปรับเพิ่มสูงขึ้นในอัตราก้าวหน้าจนกว่าผู้ค้าที่ปฏิบัติฝ่าฝืนจะย้ายที่จำหน่าย ซึ่งหากยังคงฝ่าฝืน กทม.จะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการยึดอุปกรณ์การค้าและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป--จบ--