กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่อง "นโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน" เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน โดยจัดสัมมนาระหว่างวันที่ ๒๘ – ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ ห้องประชุมราชเทวีแกรนด์ โรงแรมเอเชีย ราชเทวี กรุงเทพฯ
นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ทั้งในส่วนที่เด็กเป็นผู้ถูกกระทำและเป็นผู้กระทำความรุนแรงเอง เป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรง มากขึ้น
มีความละเอียดอ่อน ซับซ้อน และเกี่ยวพันกับบุคคลที่ใกล้ชิดเด็กทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ตลอดจนบุคคลในชุมชนและสังคม ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากสาเหตุต่างๆ อาทิ ทัศนคติและทักษะในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เป็นต้น ทั้งนี้ สังคมไทยไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็กและมองว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว จึงทำให้เด็กซึ่งเป็นบุคคลที่จะต้องได้รับการคุ้มครองจากความรุนแรงในทุกรูปแบบตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ส่งผลให้บ่มเพาะพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นในสังคมต่อไป กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก จึงมีการศึกษาเรื่องความรุนแรงต่อเด็ก ซึ่งพบว่า เด็กไทยถูกกระทำความรุนแรงทั้งทางกาย วาจา
และเพศจากบุคคลใกล้ชิด โดยความรุนแรงที่เกิดขึ้นพบตั้งแต่ระดับที่มีความรุนแรงน้อยจนไปถึงระดับที่มีความรุนแรงมาก
นายวิเชียร กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กขององค์การสหประชาชาติ
โดยข้อ ๑๙ ได้กำหนดให้รัฐภาคีดำเนินมาตรการที่เหมาะสมทั้งปวง ด้านนิติบัญญัติ บริหาร สังคม และการศึกษา ในอันที่จะคุ้มครองเด็กจากรูปแบบทั้งปวงของความรุนแรงทั้งทางร่างกาย และจิตใจ การทำร้าย หรือการกระทำอันมิชอบ การทอดทิ้ง
หรือการปฏิบัติโดยประมาท การปฏิบัติที่ผิดหรือการแสวงประโยชน์ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ(สท.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการส่งเสริมและติดตามการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของประเทศไทย ได้จัดทำร่างนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน พ.ศ.๒๕๕๗ – ๒๕๖๒ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ และเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม ร่วมกันดำเนินมาตรการต่างๆ ตามบทบาทและภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากความรุนแรงทุกรูปแบบ กระทรวงฯ จึงได้จัดสัมมนาเรื่อง "นโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน" เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนระดับชาติ ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อมโยงประสานการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ รวมทั้งทำร่างนโยบายดังกล่าวให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
"สำหรับรูปแบบการสัมมนาประกอบด้วยกิจกรรม การบรรยาย การอภิปราย การเสวนา และการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนในระดับชาติ
โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวนทั้งสิ้น ๓๕๐ คน ประกอบด้วยผู้แทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ๗๖ จังหวัด ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน องค์การระหว่างประเทศ สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สื่อมวลชน วิทยากร เจ้าหน้าที่ และผู้สังเกตการณ์ " นายวิเชียร กล่าวตอนท้าย