กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--ทริสเรทติ้ง
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไถ่ถอนภายใน 5 ปี ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทของ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A-” รวมถึงคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไถ่ถอนภายใน 3 ปี ในวงเงินไม่เกิน 1,970 ล้านบาท ที่ระดับ “A-” เช่นเดียวกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่ยาวนานของบริษัทในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนสถานะที่แข็งแกร่งในตลาดบ้านจัดสรรระดับราคาปานกลางถึงสูง และรายได้ที่สม่ำเสมอจากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์และเงินลงทุนในหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลงและภาระหนี้ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ในระยะปานกลาง นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะรักษาระดับอยู่ที่ต่ำกว่า 60% หรืออัตราส่วนภาระหนี้มีดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 1.5 เท่าในระยะเวลาที่ต่อเนื่อง
บริษัทควอลิตี้เฮ้าส์ก่อตั้งในปี 2526 ปัจจุบันบริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ณ เดือนมีนาคม 2557 ประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (25%) และ The Government of Singapore Investment Corporation Pte. Ltd. (11%) บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยมีรายได้ในปี 2556 อยู่ที่ 19,700 ล้านบาท ซึ่งมากเป็นอันดับ 5 เมื่อเทียบกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคาหลังละ 5 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานในระดับที่ยอมรับได้ในกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยราคาระดับล่างซึ่งมีราคาอยู่ที่ 1-3 ล้านบาทต่อหลัง โดยตราสัญลักษณ์ที่อยู่อาศัยของบริษัทเป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างสูงในกลุ่มผู้ซื้อบ้านจัดสรร
ฐานะการเงินของบริษัทในช่วงปี 2556 ถึงไตรมาสแรกของปี 2557 ปรับตัวดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ โดยอัตราการเติบโตมาจากกลุ่มสินค้าที่อยู่อาศัยในระดับราคาระหว่าง 1-3 ล้านบาทต่อหน่วยและการเพิ่มขึ้นของยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียม รายได้ของบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2557 อยู่ที่ 4,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน อัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) อยู่ที่ 14.1% เพิ่มขึ้นจาก 12.1% ในไตรมาสแรกของปี 2556 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 อยู่ที่ 56.3% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2556 อย่างไรก็ตาม บริษัทมียอดขายในไตรมาสแรกของปี 2557 อยู่ที่ 4,100 ล้านบาท ลดลงถึง 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสแรกของปี 2557 บริษัทเปิดขายโครงการใหม่เพียงโครงการเดียวเท่านั้น ซึ่งช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่สถานการณ์ทางการเมืองยังมีความรุนแรงอยู่
ในช่วงปี 2557-2559 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี โดยรายได้จากโครงการแนวราบคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 60%-70% ของรายได้ทั้งหมด ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 บริษัทมีมูลค่าโครงการคอนโดมิเนียมที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) อยู่ที่ 8,700 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าโครงการคอนโดมิเนียมที่จะโอนในปี 2557-2558 จะมีมูลค่าประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาทต่อปี ในช่วงปี 2557-2559 อัตราส่วนกำไรของบริษัทคาดว่าจะค่อนข้างมีเสถียรภาพ ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะต่ำกว่า 60% เมื่อพิจารณาจากแผนการเปิดโครงการใหม่ของบริษัทที่มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี
บริษัทยังคงมีสภาพคล่องในระดับที่น่าพอใจ โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 ภาระหนี้ระยะยาวซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้ามีมูลค่าประมาณ 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะชำระคืนหนี้ส่วนใหญ่ด้วยการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ แหล่งสภาพคล่องของบริษัทได้แก่เงินสด 1,800 ล้านบาทและวงเงินระยะยาวที่ยังไม่ได้เบิกใช้มูลค่า 7,000 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 รวมทั้งกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ สภาพคล่องของบริษัทยังได้รับแรงหนุนจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ด้วยมูลค่ายุติธรรมที่ 24,500 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 ด้วย