กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ สายการบินระหว่างประเทศระดับพรีเมี่ยมของอินเดีย และสายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้กำหนดแผนการส่งเสริมความมุ่งมั่นระยะยาวเพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินและเศรษฐกิจของอินเดีย รวมถึงปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ที่จะพลิกสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ให้กลับมามีกำไรภายใน 3 ปี
สายการบินทั้ง 2 เป็นพันธมิตรเที่ยวบินร่วมตั้งแต่ปี 2551 และสัมพันธภาพของทั้ง 2 สายการบินก็มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นเมื่อสายการบินเอทิฮัดได้รับการอนุมัติให้เข้าถือหุ้นร้อยละ 24 ในสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556ที่ผ่านมา นับเป็นการลงทุนในสายการบินของอินเดียเป็นครั้งแรกโดยสายการบินต่างชาติ
ความร่วมมือครั้งนี้นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อนักเดินทาง อาทิ การเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆทั่วโลกผ่านความร่วมมือด้านการทำเที่ยวบินร่วม โปรแกรมสะสมและแลกไมล์ร่วมกันระหว่าง เจ็ทพริวิเลจ และ เอทิฮัด เกสท์ไมล์
สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ และสายการบินเอทิฮัด จะได้รับประโยชน์จากการประหยัดต้นทุน และความร่วมมือด้านต่างๆอาทิ การซื้อเครื่องบิน การซ่อมบำรุง การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการฝึกอบรม โอกาสที่จะจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง อะไหล่ร่วมกัน รวมถึงการสนับสนุนด้านประกันภัยและเทคโนโลยี
เพื่อสนับสนุนการเป็นพันธมิตร คณะกรรมการสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ ได้อนุมัติแผนธุรกิจ 3 ปี เพื่อปรับพัฒนาสายการบินให้มีความมั่นคงในระยะยาว แผนงานในครั้งนี้ได้รวมมาตราการต่างๆที่สำคัญ ที่จะวางรากฐานให้สายการบินกลับมาทำกำไรอีกครั้ง อาทิการวางเครือข่ายในระยะยาว การพัฒนาฝูงบินและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการดำเนินการของสายการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
สำหรับในส่วนของการดำเนินงานระหว่างประเทศ สายการบินฯจะพัฒนาเครือข่ายการบินเพื่อให้บริการในตลาดใหม่ อาทิ ยุโรป จีน ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเส้นทางบินเดิมและเที่ยวบินร่วม ทั้งนี้เครื่องบินโดยสารของสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ที่ให้บริการใน 2 และ 3 ระดับชั้น จะได้รับการปรับให้มีความสะดวกสบายและดียิ่งขึ้นในเครื่องบินแบบลำตัวกว้างโบอิ้ง 777 และแอร์บัส A330
นอกจากนั้นรูปแบบการดำเนินธุรกิจในประเทศจะได้รับการปรับให้มีการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นทั้งในอินเดีย และทั่วโลก ตัดความยุ่งยากในตัวผลิตภัณฑ์และฝูงบินออก รวมถึงการทำให้เป็นมาตรฐานและการปรับโครงสร้างของฝูงบินโบอิ้ง 737อีกด้วย
เพื่อเป็นการริเริ่มแผนการฟื้นตัวใน 3 ปี คณะกรรมการและทีมผู้บริหารสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ ได้เริ่มทำงานกับ ผู้สอบบัญชีเพื่อเคลียร์งบดุล และจดบันทึกสินทรัพย์ที่ไม่ใช่เงินสดที่สูงเกินพื้นฐานแล้ว
สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ ประกาศให้ มร. แครมเมอร์ บอล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ และ มร. สุบท คาร์นิค เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เข้าร่วมคุมหางเสือ - ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการได้รับอนุมัติตามกฏระเบียบ มร. แครมเมอร์ บอล อายุ 46 ปี ชาวออสเตรเลีย นักบัญชีที่ได้รับการรับรองและเป็นผู้บริหารสายการบินที่ประสบความสำเร็จคร่ำหวอดในอุตสาหกรรมการบินมายาวนาน มร. สุบท คาร์นิค เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีประสบการณ์มายาวนานในภาคอุตสาหกรรมการบินชั้นนำ และเคยได้ช่วยเหลือสายการบินต่างๆในการวางแผนเครือข่ายการบินและฝูงบิน การร่วมเป็นพันธมิตรสำคัญระดับโลก การร่วมทุน และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมแก่สายการบินนานาชาติต่างๆ
มร. นาเรช โกยอล ประธานกรรมการสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ และสายการบินเอทิฮัดเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จของทั้ง 2 สายการบินแล้ว แต่ที่สำคัญคือ ประโยชน์ที่นักเดินทางจะได้รับ และเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเศรษฐกิจของอินเดีย ทั้งในด้านการเติบโต โอกาสการจ้างงาน การค้าและการท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตามตลาดก็ถูกท้าทายจากปัจจัยหลายอย่างเช่นภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ราคาน้ำมันที่ผันผวน และการเติบโตอย่างรวดเร็วของสายการบินต้นทุนต่ำในอินเดีย ฉะนั้นมาตรการที่จริงจังจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่ออนาคคในระยะยาวของสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ นอกจากนี้การขยายความร่มมือทางพันธมิตรกับสายการบินเอทิฮัดยังเป็นประโยชน์ต่อผู้โดยสารของทั้ง 2 สายการบินอีกด้วย
“สายการบินเจ็ท แอร์เวย์มีชื่อเสียงในด้านการนำคุณภาพสู่อุตสาหกรรมการบินของอินเดีย และมันถึงเวลาแล้วที่เราจะทำการชาร์ตพลังและเน้นย้ำถึงศักยภาพของเราในฐานะเที่ยวบินของประเทศที่ให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ การให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ช่วยสร้างรายได้ให้เราซึ่งนับเป็น 45 เปอร์เซนต์ ของรายได้โดยรวม จากพื้นฐานที่แข็งแกร่งนี้เราจะขยายผลและต่อยอดไปในแผนการฟื้นตัวใน 3 ปี และผลักดันให้เป็น 63 เปอร์เซนต์ภายในปี 2558 ในขณะเดียวกัน เราจะรับมือกับความท้าทายในตลาดภายในประเทศด้วยรูปแบบการดำเนินการที่ดึงเอาความยุ่งยากซับซ้อนในฝูงบินผลิตภัณฑ์และแบรนด์ ออกไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กลยุทธ์ระยะสั้น แต่เรามุ่งผลในเชิงบวกสำหรับอนาคตและมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุผลตามที่ได้ตั้งเป้าไว้
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานกรรมการบริหารสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “อินเดียเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับสายการบินต่างๆทั่วโลก ด้วยยอดผู้โดยสารจากต่างประเทศกว่า 42 ล้านคนในปีที่ผ่านมาและการคาดการณ์ถึงยอดการเติบโตในเชิงบวกจาก IATA สิ่งที่ท้าทายสำหรับเราคือการที่เราต้องรองรับความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นนี้ให้ได้ ไม่เพียงแต่ในจุดหมายปลายทางสำคัญๆในอินเดีย แต่รวมถึงเมืองเล็กๆมากมายที่ยังไม่มีการเชื่อมต่อหรือมีการเชื่อมต่อที่น้อยเกินไป
“การเป็นพันธมิตรของสายการบินเอทิฮัด และสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างอินเดียและยูเออีพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก และการรวมเครือข่ายและการทำเที่ยวบินร่วมกับสายการบินต่างๆ ทำให้อินเดียสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยัง ภูมิภาคอ่าว ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรปและอเมริกาเหนือได้อย่างสะดวกสบาย และยังนำพานักท่องเที่ยวจากจุดหมายปลายทางเหล่านี้เดินทางเข้าสู่อินเดีย ซึ่งช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินและเศรษฐกิจของประเทศ”
สายการบินเอทิฮัดจะฉลองเที่ยวบินปฐมฤกษ์ครบรอบ 10 ปีสู่อินเดียในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ในปัจจุบันนี้ สายการบินฯให้บริการเที่ยวบิน 112 เที่ยวต่อสัปดาห์ สู่ 10 จุดหมายปลายทางในอินเดีย ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 ผู้โดยสารกว่า 621,000 คนได้เดินทางไปกับสายการบินฯ สู่อินเดิย นับเป็นอัตราการเติบโตที่น่าประทับใจถึง 51 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ในเดือนที่ผ่านมา สายการบินทั้ง 2 ได้ประกาศถึงการขยายข้อตกลงเที่ยวบินร่วมอีก 43 จุดหมายปลายทางหลังจากได้รับการอนุมัติตามกฏระเบียบแล้วทำให้ยอดเที่ยวบินร่วม รวมกันแล้วเพิ่มเป็น 71จุดหมายปลายทาง
ภายใต้การพัฒนาในครั้งนี้ สายการบินเอทิฮัดจะใช้รหัส EY สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศอินเดียเป็นครั้งแรก ข้อตกลงเที่ยวบินร่วมซึ่งประกอบด้วย 31 เส้นทางของสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ จากศูนย์กลางทางการบินที่ มุมไบ นิวเดลี เชนไน และบังกาลอร์ ไปยังศูนย์ภูมิภาคในอาเมดาบัด อัมริตซาร์ กัว เดอราบาด ชัยปุระโคชิ โกลกาตา ลัคเนา แมงกาลอร์ ปัฏนา ทิรูวานันทาปูราม วาโดดารา
รวมถึงเที่ยวบินของสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ระหว่าง อาบูดาบีและบังกาลอร์ เชนไน โคชิน เดลี มุมไบและ ไฮเดอราบัด และเที่ยวบินของสายการบินเอทิฮัดระหว่าง อาบูดาบีและอาเมดาบัด บังกาลอร์ เชนไน ไฮเดอราบัด โคชิ โคชิโคเด่ มุมไบ นิวเดลี ตริวันดรัม
ในวันพรุ่งนี้ทั้ง 2 สายการบิน จะเปิดตัว แคมเปญการตลาดใหม่ร่วมกันภายใต้ แนวคิด ‘Flying India Forward’ ซึ่งจะเน้นย้ำถึงความร่วมมือของทั้ง 2 สายการบินฯที่เป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ และสายการบินเอทิฮัดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศจากอินเดียร่วมกัน มากกว่าสายการบินอื่นๆ และเปิดโอกาสในการสะสมและแลกไมล์ร่วมกัน โดยไม่มีข้อจำกัด ในโปรแกรมสะสมไมล์ร่วมกัน แคมเปญดังกล่าวจะเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ สื่อออนไลน์ ป้ายโฆษณาสนามบินในประเทศอินเดีย
หมายเหตุ : งานแถลงข่าวเป็นเจ้าภาพโดย มร. นาเรช โกยอล ประธานกรรมการสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ และมร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานกรรมการบริหารสายการบินเอทิฮัดที่นิวเดลีเวลา 11:00 (IST) / 09:30 (GST) ในวันนี้ ท่านสามารถรับชมวีดีโอได้ที่ etihad.com/livenews