EUREKA แย้มแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส หลังอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้น พร้อมคงเป้ารายได้ปีนี้โต 5%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 4, 2014 11:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--IR network บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ (EUREKA) แย้มแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังสดใส หลังสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย ทำให้การลงทุนของกลุ่มยานยนต์เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซีอีโอคนเก่ง “นรากร ราชพลสิทธิ์” ระบุขณะนี้ตุนงานในมือมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ทยอยรับรู้ปีนี้ทั้งหมด และอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่อีกมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท พร้อมคงเป้ารายได้ปีนี้โต 5% นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ EUREKA เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดการณ์ว่าแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย ทำให้การลงทุนของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาปกติ ดังนั้น บริษัทฯจึงคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังน่าจะฟื้นตัวขึ้นตามอุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมกันนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโต 5% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 403 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์เพิ่งเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งหากระยะเวลาผ่านไปและสถานการณ์มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน บริษัทฯอาจจะมีการทบทวนเพิ่มเป้าหมายประมาณการใหม่อีกครั้ง โดยปัจจุบันบริษัทฯมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่อีก มูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งคาดหวังว่าบริษัทฯน่าจะได้รับงานดังกล่าวประมาณ 50% ของมูลค่างานทั้งหมด สำหรับสาขาในต่างประเทศที่อินโดนีเซีย ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ทางยูเรกา อินโดนีเซีย ได้ยื่นประมูลงานไปมูลค่ารวม 20 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าจะได้รับงานประมาณ 50% ของมูลค่างานทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะทราบผลประมูลในเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมเปิดสาขาที่อินเดียเป็นสาขาที่ 2 ในต่างประเทศภายในไตรมาส 3/2557 นี้ โดยการขยายไปยังต่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงและกระจายฐานรายได้ ซึ่งแผนการลงทุนในต่างประเทศนั้นปีแรกจะเน้นงานขายและการบริการ ปีที่ 2 จะเป็นการประกอบเครื่องจักร และปีที่ 3จะเป็นการผลิตเครื่องจักร “ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยในครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มดีขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) และสนับสนุนธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมผลิตและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ พร้อมสนับสนุนการใช้จ่ายและการบริโภคภาคครัวเรือน ทำให้ความเชื่อมั่นเริ่มฟื้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมต่างๆชะลอตัวลง” นายนรากร กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ