กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกสมาคมการขายตรงไทย ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมขายตรงไทยคนใหม่ ในวาระกรกฎาคม 2557- มิถุนายน 2559 โดยเตรียมเดินหน้าสานต่อนโยบาย พร้อมสร้างการเติบโตและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจขายตรง วางนโยบาย 3 แนวทางมุ่งเน้น การสร้างภาพลักษณ์และยกระดับสมาคมสู่สากล การสร้างความภาคภูมิใจในธุรกิจขายตรงต่อสมาชิกและผู้ประกอบธุรกิจ และมุ่งเน้นให้องค์ความรู้ สร้างจรรยาบรรณนักขายอย่างมีประสิทธิภาพ
นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ นายกสมาคมการขายตรงไทย เปิดเผยว่า การได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สมาชิกให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ทั้งคณะกรรมการและสมาชิก จะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพ นำพาสมาคมของเราก้าวสู่สากลและเป็นศูนย์กลางขายตรงอาเซียนได้อย่างภาคภูมิ
ทั้งนี้สมาคมการขายตรงไทยก่อตั้งมานานกว่า 30 ปี ขณะนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาธุรกิจขายตรงนับได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศสาขาหนึ่ง และเป็นธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลกว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี ครอบคลุมหลากหลายสินค้า ผลิตภัณฑ์ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตรกรรม และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการสร้างและดำรงรักษาชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ การเติบโต และทำให้ธุรกิจขายตรงเป็นที่ยอมรับในสังคมวงกว้าง และในยุคปัจจุบันยังถือได้ว่าธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจแห่งโอกาส ซึ่งสมาคมตระหนักในภาระและพันธกิจดังกล่าว จึงมุ่งหวังที่จะสานต่อเจตนารมณ์ในการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพสมาคมการขายตรงไทยให้ก้าวไกลสู่สากลทั้งในเวทีประชาคมอาเซียน และประชาคมโลก เพื่อเป็นศูนย์กลางของธุรกิจขายตรงระดับภูมิภาคและของโลกต่อไป
“สำหรับแนวทางการบริหารสมาคมจะยังคงสานต่อด้านวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์หลักของสมาคมขณะเดียวกันจะมุ่งเน้นนโยบายที่เข้มข้นขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมขายตรงไทย โดยแบ่งเป็น 3 แนวทางหลักๆ ประกอบด้วย
1. การยกระดับสมาคมการขายตรงไทยสู่สากล เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพและภาพลักษณ์ของสมาคมการขายตรงไทยให้มีความน่าเชื่อถือ ทันสมัย และมีความเป็นสากลเทียบเท่านานาชาติ พร้อมก้าวสู่เวทีระดับโลก และเป็นศูนย์กลางของธุรกิจขายตรงในภูมิภาคอาเซียน เพื่อตอบรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะเป็นจังหวะที่ดีในการสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับธุรกิจขายตรงอย่างมาก เนื่องจากเป็นตลาดที่ขยายตัวสูงขึ้น นอกจากนี้สมาคมเตรียมสานต่อแผนการจัดตั้งสมาพันธ์ขายตรงอาเซียน (ASEAN DSAs) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเตรียมความพร้อมในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมขายตรงในภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งความตั้งใจของเรา คือ การเตรียมความพร้อมของสมาคมการขายตรงไทยเพื่อเสนอชื่อให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานประชุม World Congress ของสมาพันธ์การขายตรงโลก (World Federation Direct Selling Associations: WFDSA) ครั้งที่ 15 ซึ่งกำลังจะมีการประชุมเพื่อคัดเลือกเจ้าภาพในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ ที่ประเทศบราซิล ซึ่งหากประเทศไทยได้เป็นตัวแทนในครั้งนี้ก็จะถือเป็นความภาคภูมิใจของสมาคมและเป็นความสำเร็จอีกขั้นในการยกระดับขายตรงไทยสู่สากล
2. การสร้างความภาคภูมิใจในธุรกิจขายตรงต่อสมาชิกและผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมนี้มีรากฐานที่แข็งแกร่งจากความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้ร่วมธุรกิจ ซึ่งการก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 ของสมาคมการขายตรงไทย เป็นเครื่องยืนยันสำคัญที่ตอกย้ำเกียรติภูมิของธุรกิจขายตรงไทยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยได้สร้างโอกาสให้กับผู้คนจำนวนมากมาย ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสร้างชีวิตใหม่ให้กับคนไทยนับล้านๆ คน ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้จริง สิ่งเหล่านี้ จึงถือเป็นอีกบทบาทภาระหน้าที่ของสมาคมซึ่งจะดำรงไว้ด้วยภาพลักษณ์และความภาคภูมิใจ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสมาชิกภายในสมาคม ตลอดจน ผู้จำหน่ายอิสระ และผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจขายตรง และยึดมั่นในการรักษามาตรฐานของการขายตรงไปตราบนานเท่านาน
3. เผยแพร่องค์ความรู้และจรรยาบรรณของธุรกิจขายตรงอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สมาคมตระหนักและให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ด้านธุรกิจขายตรงในทุกภาคส่วนทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนผู้บริโภคและสาธารณชนได้เข้าใจ มองเห็นโอกาส และเปิดรับในธุรกิจนี้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ข้อมูลต่างๆที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น จะต้องมีความถูกต้อง โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นไปตามหลักปฏิบัติของสมาคมว่าด้วยการประกอบธุรกิจขายตรงอย่างมีจรรยาบรรณ และเพื่อให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงต่อไป” นางภคพรรณ กล่าว
สำหรับคณะกรรมการบริหารสมาคมการขายตรงไทย ชุดปัจจุบันแบ่งขอบเขตความรับผิดชอบออกเป็น 7 ฝ่าย ประกอบด้วย
1. มร. เต้ เพีย เซง บริษัท เพอร์เฟค รีซอร์สเซส (ประเทศไทย) จำกัด ดำรงตำแหน่ง อุปนายกฝ่ายการศึกษา
2. พญ. นลินี ไพบูลย์ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด
ดำรงตำแหน่ง อุปนายกฝ่ายรัฐสัมพันธ์
3. นายรัฐโรจน์ กุลศิริประภานนท์ บริษัท อาราก้อนเวิลด์ จำกัด
ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ
4. เภสัชกรประเสริฐ หวานยิ่ง บริษัท วิน วินเวิลด์ไวด์ จำกัด
ดำรงตำแหน่ง เหรัญญิก
5. นายกิจธวัช ฤทธีราวี บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ดำรงตำแหน่ง กรรมการฝ่ายการสื่อสาร
6. นายสุเทพ ยืนยงค์วิทยากุล บริษัท นิวไลฟ์ เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด
ดำรงตำแหน่ง กรรมการฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์
7. นางสุชาดา ธีรวชิรกุล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด
8. มร.คริสโตเฟอร์ เฮยนสึ คิม บริษัท ยูนิซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด
ดำรงตำแหน่ง กรรมการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ
นางภคพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีหลัง เห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย ซึ่งจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคกลับคืน เป็นผลให้ธุรกิจขายตรงจากนี้เป็นต้นไปจะมีการขยายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ก็จะเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนที่สำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจขายตรงในปีหน้า น่าจะมีอัตราการเติบโตในทิศทางบวกมากขึ้น