กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--IR network
บล.โกลเบล็ก แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) ราคาพื้นฐานปี 58 อยู่ที่ 8.25 บาท/หุ้น คาดปี 57 มีกำไรสุทธิประมาณ 1,362 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23% yoy และปี 58 อยู่ที่ประมาณ 1,634 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20% yoy จากความต้องการถ่านหินที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ และเหมืองถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซียเพิ่ม “ขจรพงศ์ คำดี” ระบุขณะนี้แผน 5 ปี 5 เหมือง 5 ประเทศ ทยอยบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้วางเอาไว้มั่นใจผลักดันธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างมีศักยภาพแน่นอน
บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ หุ้นบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน)หรือ EARTH โดยระบุว่า ผลประกอบการของบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วตั้งแต่1Q57 และคาดว่าจะเห็นผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างชัดเจนตั้งแต่ 2Q57 เป็นต้นไป จากยอดขายถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากลูกค้าเร่งสต๊อกถ่านหินก่อนเข้าสู่เทศกาลรอมดอน โดยคาดว่ายอดขายถ่านหินใน 2Q57 จะอยู่ที่ 2.25 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 50% qoq และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% qoq และ3% yoy โดยมีสมมติฐานของราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่ 5.5$/ton ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และGross Profit Margin ที่ 19%
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทสามารถขุดถ่านหินจากเหมืองที่ประเทศอินโดนีเซียได้มากขึ้น เพราะไม่ติดปัญหาเรื่องฝนตกหนัก ขณะที่ยอดขายถ่านหินปรับตัวสูงขึ้นตามฐานลูกค้าที่ขยายตัว โดยล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญาขายถ่านหินให้กับลูกค้าที่เกาหลีใต้มูลค่า 220 ล้านบาทมีกำหนดส่งมอบตั้งแต่เดือนตุลาคม 57 นี้ ส่วนแนวโน้มราคาถ่านหินโอกาสที่จะปรับลดลงนั้นมีอย่างจำกัด เนื่องจาก ณ ระดับราคาปัจจุบันห่างจากราคาต่ำสุด เมื่อครั้งวิกฤติซัพไพร์มที่ 61.5$/ton เพียง 6.35$/ton อีกทั้งยังเป็นราคาที่ต่ำกว่าจุดคุ้มทุนของผู้ประกอบการเหมืองในสหรัฐฯ รัฐเซีย และจีน ซึ่งส่วนใหญ่มีต้นทุนเฉลี่ยที่ 70-80$/ton จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ประกอบการในประเทศดังกล่าวจะต้องลดปริมาณการผลิต หรือปิดกิจการ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันของอุปทานส่วนเกินที่มีอยู่ในตลาดออกไป โดยปีนี้ตลาดคาดการณ์ว่าราคาถ่านหิน BJI จะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 78$/ton ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ยในปัจจุบัน 15% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปสู่ระดับ 91$/ton ในปี 2018
ทั้งนี้จากการที่ EARTH ตั้งเป้ายอดขายถ่านหินปีนี้ไว้ที่ 9 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 12.5% yoy โดย 7 ล้านตัน บริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับลูกค้าไว้แล้วนั้น ทำให้มั่นใจว่ายอดขายถ่านหินในปีนี้ของ EARTH จะเป็นไปตามเป้า ส่วนปี 58 คาดว่าจะมียอดขายถ่านหินเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านตัน ซึ่งมีแรงหนุนจากความต้องการถ่านหินที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับการได้เหมืองถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซียเพิ่มอีกหนึ่งแห่งจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าที่ต้องการทำสัญญาระยะยาวเพิ่มมากขึ้น
ส่วนกำไรคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจาก 16.5% ในปี 56 เป็น 18.5%ในปี57 และเพิ่มขึ้น 19.5% ในปี 58 เนื่องจากสัดส่วนการขายถ่านหินของเหมืองต่อการทำ Trading สูงขึ้นจาก 30:70 ในปี 56 เป็น 50:50 ในปี 58 โดยทุกๆ 10% ของการขายถ่านหินจากเหมืองที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่ม GPM ให้ EARTH ประมาณ 1% ซึ่งปีนี้คาดว่า EARTH จะมีกำไรสุทธิประมาณ 1,362 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23% yoy และคาดกำไรสุทธิปี 58 ประมาณ 1,634 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20% yoy
ปัจจุบัน EARTH มีราคาซื้อขายบน P/E ปีนี้ที่ 13.4 เท่า และ 11 เท่าในปี 58 ซึ่งถือว่าไม่แพงหากเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มซึ่งมี P/E ซื้อขายเฉลี่ยที่ 17 เท่า และด้วยแนวโน้มกำไรสุทธิในปีนี้และปี 58 ซึ่งคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ปีละ 21% มีอัตราตอบแทนจากเงินปันผล 3% บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด จึงแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมของ EARTH โดยใช้วิธี P/E Ratio อิง Prospective P/E ปี 58 ที่ 15 เท่า จะได้ราคาเหมาะสมปี 58 ที่ 8.25 บาทยังมี Upsidc 34%
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็สนเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ทยอยบรรลุวัตถุประสงค์ตาม Mission ที่ได้วางเอาไว้ คือ 5 ปี 5 เหมือง 5 ประเทศแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการมีเหมืองถ่านหินเป็นของตัวเองที่ขณะนี้มีอยู่จำนวน 2 แห่งที่ประเทศอินโดนีเซีย และแผนการเพิ่มเหมืองจนครบ 5 เหมือง ตาม Mission ที่วางใว้ ขณะที่ลูกค้าได้ทยอยเพิ่มขึ้นทั้งจากประเทศไทย จีน อินเดียและล่าสุดจากเกาหลีใต้ ซึ่งนับจากนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งอย่างมีศักยภาพต่อไป ทั้งการรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกับการบุกตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง