กรุงเทพ--16 ก.ค.--IFCT
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไอเอฟซีที ไฟแนนซ์ จำกัด (มหาชน) แถลงการออกหุ้นกู้ "IFCT Reference Bonds Program" เพื่อพัฒนาเป็นตราสารที่ใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (Benchmark Rate) ในอนาคต ประกอบด้วยหุ้นกู้บรรษัทอายุปานกลาง-ยาว ระหว่าง 3-7 ปี มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายผ่านชมรมผู้ค้าตราสารหนี้วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2539 โดยมี ไอเอฟซีทีไฟแนนซ์ เป็น underwriter และบริษัทในเครือบรรษัทร่วมเป็น market maker
แม้ว่า ตลาดตราสารหนี้ของไทยจะมีอัตราการเติบโตที่สูงในช่วง 3-4 ปี แต่ยังคงมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาดทุนซึ่งโตกว่าอยู่ประมาณ 9 เท่า โดยเปรียบเทียบมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) อย่างไรก็ตามได้มีการคาดการณ์ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าตลาดตราสารหนี้ไทยจะเติบโตขึ้นเท่ากับหรือมากกว่าตลาดทุนได้เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว หากทางการดำเนินการพัฒนาและขจัดอุปสรรคของตลาดตราสารหนี้อย่างจริงจตัง เพื่อที่จะมีส่วนช่วยสนับสนุนทางการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นภาระกิจสำคัญประการหนึ่งตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บรรษัทและไอเอฟซีทีไฟแนนซ์ จึงได้ร่วมกันพัฒนาตราสารที่อาจใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงได้ในอนาคต ภายใต้โปรแกรม "IFCT Reference Bonds" โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยขจัดปัญหาการขาดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (Benchmark Rate) อันเป็นอุปสรรคสำคัญประการหนึ่งของการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย
นายอภิศักดิ์ เปิดเผยว่า หุ้นกู้บรรษัทมีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เนื่องจาก มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับตราสารภาครัฐ กล่าวคือ มีอันดับความน่าเชื่อถือเท่ากับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ อีกทั้งยังมีปริมาณหุ้นกู้ในตลาดจำนวนค่อนข้างมาก คือประมาณ 30% ของมูลค่าตราสารหนี้เอกชนในประเทศที่ออกแต่ละปี นอกจากนี้ หุ้นกู้บรรษัทยังมีความหลากหลายของอายุหุ้นกู้ ทั้งระยะสั้น ปานกลาง และยาว จนถึง 18 ปี และมีความสม่ำเสมอในการออก แต่ในปัจจุบันการที่จะพัฒนาหุ้นกู้บรรษัทเพื่อใช้ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงยังติดขัดปัญหาในเรื่องของสภาพคล่อง เนื่องจากนักลงทุนจะซื้อหุ้นกู้บรรษัทไว้เพื่อการสำรองเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเพื่อให้หุ้นกู้บรรษัทมีสภาพคล่องในตลาดรอง สามารถสะท้อนถึงดอกเบี้ยของตลาดได้ โปรแกรม "IFCT Reference Bonds" จึงได้กำหนดขนาดของหุ้นกู้ให้มีมากพอควร มีความสม่ำเสมอและต่อเนื่องในการออกและมีจำนวนรุ่นของหุ้นกู้ไม่มากจนเกินไป รวมทั้งให้มี market maker อย่างเป็นทางการอีกด้วย
รายละเอียดของโปรแกรมประกอบด้วย หุ้นกู้บรรษัท อายุ 3 ปี 5 ปี และ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 8.875% 9.00% และ 9.25% ตามลำดับ จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้ออกหุ้นกู้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2539 โดยมีไอเอฟซีทีไฟแนนซ์ เป็น underwriter และจะเริ่มซื้อขายผ่านชมรมผู้ค้าตราสารหนี้ วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2539 ทั้งนี้ โดยมีไอเอฟซีทีไฟแนนซ์ และบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ในเครือบรรษัทร่วมกันทำหน้าที่เป็น market maker ราคาซื้อขายจะเผยแพร่สู่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หลังจากชมรมผู้ค้าตราสารหนี้ปิดทำการเป็นประจำทุกวัน โดยผ่านเครือข่ายระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ชั้นนำต่าง ๆ อาทิ บิสนิวส์ รอยเตอร์ และบลูมเบอร์ก รวมทั้งสื่อหนังสือพิมพ์ ได้แก่ กรุงเทพธุรกิจ เดอะเนชั่น และขยายสู่รายอื่น ๆ ที่สนใจจะเผยแพร่ข้อมูลต่อไป
นายอภิศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า หุ้นกู้บรรษัทภายใต้โปรแกรมดังกล่าว คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งที่เป็นสถาบันการเงินในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศที่ต้องการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ ซึ่งจะสามารถสร้างสภาพคล่องในตลาดรองได้ เนื่องจากการมีซื้อขายอย่างต่อเนื่องและสามารถสะท้อนถึงอัตราดอกเบี้ยของตลาด ซึ่งอาจพัฒนามาใช้เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง รวมทั้งสร้างเป็น Yield Curve ได้ในอนาคต--จบ--