กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บมจ.ริชี่เพลซ 2002 (RICHY) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ ทาวโฮมส์ พร้อมซื้อขายใน ตลท. 7 ส.ค. นี้
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ. ริชี่เพลซ 2002 (RICHY) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน ตลท. ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2557 ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,356 ล้านบาท โดย RICHY ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีโครงการประเภทคอนโดมิเนียม ที่เน้นใกล้เคียงกับสถานีขนส่งมวลชนระบบราง ภายใต้ชื่อ “เลอริช” และ “ริชพาร์ค” และโครงการประเภทบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ ทาวโฮมส์ ภายใต้ชื่อ “เดอะริช” และ “ริชชี่ วิลล์”
RICHY มีทุนชำระแล้ว 714 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 214 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 28 - 29 กรกฎาคม และ 1 สิงหาคม 2557 ในราคาหุ้นละ 3.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 706 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร RICHY เปิดเผยว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงให้แก่บริษัท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ขยายโครงการใหม่รองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับบริษัท
RICHY มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มอรรถบูรณ์วงศ์ ถือหุ้น 54.36% คุณสุณี สถตินันท์ ถือหุ้น 6.33% คุณวรภา มนต์อารักษ์ ถือหุ้น 2.18% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้ คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ประมาณ 14.35 เท่า โดยคำนวณจากกําไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 เมษายน 2556 – 31 มีนาคม 2557) ซึ่งเท่ากับ 161.36 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.23 บาท โดยที่ค่า P/E Ratio เฉลี่ยของผู้ประกอบการอื่นในอุตสหากรรมเดียวกันและมีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดใกล้เคียงกัน ที่จดทะเบียนอยู่ในตลท. เฉลี่ยในช่วงระยะเวลา 12 เดือน (15 กรกฎาคม 2556 - 14 กรกฎาคม 2557) เท่ากับ 11.76 เท่า บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับงบการเงินเฉพาะกิจการ และหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทได้กำหนดไว้
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.rp.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th