กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--PRDD
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มบริษัทวายแอลจี เตรียมที่จะขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นโดยได้ตั้งบริษัท วายแอลจี โกลด์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ "บริการแลกทองคำสำหรับผู้ซื้อขาย Gold Futures " ในตลาด TFEX โดยได้เตรียมความพร้อม ทางด้านบุคลากรและระบบงานในการให้บริการอย่างถูกต้องครบถ้วน เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ซื้อขาย Gold Futures ให้สามารถ แลกทองคำจริงได้เมื่อสัญญาครบกำหนดอายุ โดยจะเริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่สัญญาเดือนสิงหาคม 2557 เป็นต้นไป ทั้งประเภทสัญญา 50 บาทและสัญญา 10 บาท
สำหรับขั้นตอนของการใช้ "บริการแลกทองคำสำหรับผู้ซื้อขาย Gold Futures" ก่อนที่ สัญญาจะครบกำหนดอายุลูกค้าสามารถติดต่อมายังบริษัท วายแอลจี โกลด์ จำกัด เพื่อแจ้งความจำนงในการซื้อหรือขายทองคำ ซึ่งน้ำหนักขั้นต่ำที่แลกได้อยู่ที่ 10 บาท แต่ไม่เกินจำนวนที่ถือครองใน Gold Futures จากนั้นแสดง เอกสารการมีธุรกรรมซื้อขาย Gold Futures ใน TFEX และชำระเงินประกันการ ใช้บริการในอัตรา 30,000บาทต่อการแลกซื้อขายทองคำน้ำหนัก10 บาท และ 150,000 บาทต่อการแลกซื้อขาย ทองคำน้ำหนัก 50 บาท ภายในเวลา 12.00 น.ของวันซื้อขายวันสุดท้ายของGold Futures โดยชำระราคาทองคำส่วนที่เหลือหรือส่งมอบทองคำเต็มจำน วน ภายใน 2 วันทำการหลังจากที่ สัญญาครบกำหนดอายุ ซึ่งราคาซื้อขายทองคำนี้จะอ้างอิงจากราคาที่ใช้ชำระราคาครั้งสุด ท้าย (final settlement price) ของ สัญญา Gold Futures ที่ครบกำหนด อายุในเดือนนั้น ส่วนอัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการ (fee) จะกำหนดไว้เป็นมาตรฐาน กรณีผู้ซื้อ gold futures อยู่ที่+50 ต่อบาทต่อทองคำน้ำหนัก 1 บาท และกรณีผู้ขายอยู่ที่ -150 บาทต่อทองคำน้ำหนัก 1 บาท
นางสาวฐิภา กล่าวว่า สัญญาที่ครบกำหนดอายุเดือนสิงหาคม 2557 คือสัญญา 50 บาท (GFQ14) และสัญญา 10 บาท (GF10Q14) ผู้ซื้อขาย Gold Futures สนใจใช้บริการดังกล่าว สามารถชำระเงินประกันการใช้บริการดังกล่าวตั้งแต่ ก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนสิงหาคมคือวันที่ 28 สิงหาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2557 ก่อนเวลา 12.00 น. โดยเชื่อว่า บริการนี้คงได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเพราะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการซื้อขาย Gold Futures และบริหาร ความเสี่ยงให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2557 วายแอลจีมองว่าราคา ทองคำจะยังคงเคลื่อนไหว ภายในกรอบราคา 1,180-1,430 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 18,000-21,800 บาทต่อบาททองคำโดย ประเมินว่าราคาทองคำจะเผชิญความผันผวนแม้จะเกิดแรงขายออกมาระหว่างทาง แต่ยังคงแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้ ทั้งนี้ราคาทองคำไม่ควรเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนนั้น หากเป็นนักลงทุนระยะยาวยังคงสามารถสะสมทองคำ ได้ตั้งแต่ 1,200-1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือ 18,300-18,000 บาทต่อบาททองคำ ส่วนนักลงทุนระยะสั้นอาจเก็งกำไรตามกรอบราคาโดยมีปัจจัยแวดล้อมใน ขณะนั้นๆประกอบการตัดสินใจลงทุน
โดยปัจจัยที่มีผลกระทบคือนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯโดยเฉพาะ นโยบายอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีการประเมินว่าอาจปรับตัวขึ้นได้จากสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดี ขึ้น แต่หากมีการปรับขึ้นเร็วกว่าที่กำหนด ย่อมส่งผต่อทิศทางของราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ปัญหาในยูเครนยังคงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเป็นระยะในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งหากมีประเด็นเพิ่มเติมย่อมส่งผลต่อราคาทองคำได้อีกเช่นกัน นอกจากนี้ความต้องการทองคำที่มาจากตลาดเกิดใหม่ รวมถึงอินเดียและจีนโดยเฉพาะจีนที่มีการประเมินว่าครัวเรือนในระดับชนชั้นกลางจะปรับเพิ่มขึ้น 60% ในปี 2020 ย่อมเป็นปัจจัยที่จะผลักดันราคาทองคำได้ในระยะยาว และสุดท้ายความต้องการทองคำที่มาจากธนาคารกลางยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำไม่ให้ปรับตัวลงมากนัก