กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--สภาส่งเสริมการส่งออกแห่งไต้หวัน
สภาส่งเสริมการส่งออกแห่งไต้หวัน ประจำประเทศไทย ดึงผู้ประกอบการชั้นนำกว่า 10 ราย ร่วมโชว์สุดยอดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ในงาน Taiwan Green Products Pavilion ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 สิงหาคม ศกนี้ ณ บริเวณชั้น 1 หน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศูนย์การค้าเมกา บางนา เพื่อร่วมรณรงค์อนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกสีเขียว หวังเจาะกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย คาดมีผู้ร่วมชมงานกว่า 2,000 คน เมื่อเร็วๆนี้
มร. จัสติน ซี. เค. ไต้ ผู้อำนวยการสภาส่งเสริมการส่งออกแห่งไต้หวัน ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า “ปัจจุบันเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่นานาประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ และให้ความสนใจมากขึ้น ไต้หวันเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการพัฒนาในเรื่องของการผลิตและเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมในระดับชั้นนำของโลก รวมถึงมีการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างสูงแห่งหนึ่ง โดยไต้หวันมีนโยบายการดำเนินแผนธุรกิจและพัฒนาประเทศในปี พ.ศ. 2557 ภายใต้ยุทธศาสตร์เชิงรุกในแนวคิด “การส่งเสริมการค้าด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม” ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจ สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจ ซึ่งมีนโยบายหลัก 3 ประการ คือ 1. การบริการและให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม 2. การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม และ 3. การผลักดันและส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม โดยนโยบายเหล่านี้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือ และเสริมสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก”
“โดยงาน Taiwan Green Products Pavilion งานแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ระหว่างวันที่ 1-5 สิงหาคม 2557 ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีในการกระตุ้น ส่งเสริมให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆ หันมาสนใจพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนจูงใจให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เกิดความตื่นตัว และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม การรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรเป็นสำคัญ ซึ่งภายในงานนี้จะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมหลากหลาย จากผู้ผลิตและผู้ประกอบการไต้หวันระดับแนวหน้ากว่า 13 แห่ง
อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ผลิตภัณฑ์ส่องสว่าง LED ประหยัดพลังงาน, นวัตกรรมใหม่ในการขับเคลื่อนกับจักรยานพับประหยัดพลังงาน, บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม, นวัตกรรมผ้าห่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฯลฯ”
“เราคาดว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับและความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ประกอบการไทยซึ่งปัจจุบันมีความตื่นตัวด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น โดยจะเริ่มเห็นได้จากการออกแบบอาคาร การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ การจัดภูมิสถาปัตย์ เพื่อช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ภายในครัวเรือนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ด้านคมนาคมขนส่งซึ่งเป็นภาคส่วนที่ใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก ยังคงหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าผู้เข้าชมงานจะได้พบกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการไทยได้อย่างลงตัว ทั้งด้านดีไซน์ และการใช้สอย ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง” มร. จัสติน กล่าวทิ้งท้าย