กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี หรือ AGE โชว์ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก รายได้ 3,632 ล้านบาท โต 34% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้เศรษฐกิจจะซบเซาจะไม่เอื้ออำนวย และมีกำไรสุทธิ 43 ล้านบาท เหตุยอดขายถ่านหินทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ประมาณ 2 ล้านตัน ด้าน “ พนม ควรสถาพร ” กรรมการผู้จัดการ ระบุ ความต้องการใช้ถ่านหิน ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีการขยายฐานลูกค้าใหม่ ในครึ่งปีหลังเพิ่ม มั่นใจรายได้ปีนี้ แตะ 7 พันล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกว่า บริษัทฯมีรายได้ ที่ 3,632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 2,716 ล้านบาท มาจากการขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น โดยมีปริมาณการทั้งขายในประเทศ และ ต่างประเทศ ที่ประมาณ 2 ล้านตันเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 49 %
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทฯมียอดจำหน่ายถ่านหินเพิ่มขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะซบเซาก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มความต้องการใช้ถ่านหิน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯมีการปรับแผนการตลาดแบบเชิงรุก โดยการเจาะตลาดในประเทศจีน ส่งผลให้บริษัทฯสามารถขยายฐานลูกค้าทั้งรายเดิม และ รายใหม่ ได้มากขึ้น ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทฯมียอดขายในครึ่งปีแรกเป็นไปตามแผนที่วางไว้
นอกจากนี้ นายพนม ยังได้กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังว่า บริษัทฯยังคงเร่งขยายตลาดในประเทศจีนต่อเนื่อง เนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่ และมีอัตราการนำเข้าถ่านหิน เฉลี่ยปีละ 300 ล้านตัน ซึ่งจากความต้องการ การนำเข้าถ่านหินแล้วเชื่อว่าตลาดในประเทศดังกล่าว ยังมีช่องว่างการขยายตัวอีกมาก
ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายไตรมาส 4 ของทุกปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ เนื่องจากเป็นช่วงอากาศหนาว ส่งผลให้ความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มสูงขึ้นจากยอดคำสั่งซื้อในต่างประเทศ จากการสต็อกสินค้าเก็บ เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้า และจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายถ่านหินในปีนี้ 4 ล้านตัน ขณะที่อัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 7 พันล้านบาท
“แนวโน้มตลาดถ่านหินในช่วงครึ่งปีหลัง มีการแข่งขันที่สูงของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นสิ่งที่บริษัทฯมุ่งเน้นคือการ ลดต้นทุน รวมถึงหาโอกาสในธุรกิจที่จะช่วยเสริมสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น เพื่อเป็นการช่วยลดความผันผวนจากราคาสินค้า commodity ” นายพนม กล่าว