กรุงเทพ--22 พ.ค.--วิสทีออน ออโตโมทีฟ ซิสเต็มส์
บริษัทวีสทีออน ออโตโมทีฟ ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นองค์กรในเครือของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่แสดงถึงความแข็งแกร่งทางการแข่งขันระดับโลกเป็นครั้งแรกในวันนี้ หลังจากเริ่มดำเนินการภายใต้ชื่อ “วีสทีออน” ตั้งแต่เดือนกันยายน 2540 เป็นต้นมา
วีสทีออนมีรายได้สุทธิในไตรมาสแรกของปี 2541 เพิ่มขึ้นจาก 146 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2540 เป็น 189 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 ความสำเร็จในการสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างดีเยี่ยมนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการด้านต้นทุน ปริมาณและประสิทธิภาพการทำงานอันสอดประสานกัน อีกทั้งยังสามารถชดเชยต้นทุนบางส่วนที่ใช้ไปในการก่อตั้งหน่วยงานด้านการตลาดอีกด้วย
บริษัทฯ มีรายได้ประจำไตรมาสแรกในปี 2541 สูงถึง 4,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว วีสทีออนมีรายได้สุทธิในปีงบประมาณ 2540 เป็นจำนวน 518 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2539 สูงถึงร้อยละ 53 รวมทั้งมีรายได้ในปี 2540 สูงถึง 17,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปี 2539 ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลกำไรได้มากขึ้นคือความสามารถในการลดต้นทุนได้มากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว โดยรายได้ของวีสทีออนในปี 2540 จากทวีปอเมริกาเหนือเป็นจำนวนสูงถึงร้อยละ 81 ทวีปยุโรปร้อยละ 15 และจากทวีปอเมริกาใต้และเอเชียร้อยละ 4
มร. เอ็ด ฮาเก้นล็อคเกอร์ ประธานบริษัทวีสทีออน กล่าวว่า "วีสทีออนก่อตั้งขึ้นในเดือนกันยายน 2540 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นองค์กรอิสระที่สร้างรายได้และกำไรเลี้ยงตนเอง รวมทั้งสร้างเสริมมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นของฟอร์ด จากผลการดำเนินงานของวีสทีออน ณ วันนี้ เราเชื่อมั่นว่าวีสทีออนเริ่มต้นอย่างมั่นคงในโลกแห่งอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์ที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันอันแข็งแกร่ง และกำลังมุ่งไปในทิศทางที่ถูกต้องในปัจจุบัน"
มร. ชาร์ลี ซูลุค ประธานบริหารบริษัทวีสทีออน กล่าวเสริมว่า "วิสัยทัศน์ของวีสทีออน ก็คือ การเป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจการจัดหาระบบและชิ้นส่วนรถยนต์ เราได้วางแผนเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวโดยสร้างองค์กรที่มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพเพื่อส่งมอบระบบและเทคโนโลยีประดิษฐกรรมชิ้นส่วนรถยนต์อันทรงคุณค่าและเปี่ยมด้วยบริการให้แก่ลูกค้าระดับแนวหน้า “
มร. ซูลุค ได้กล่าวถึงความสำเร็จที่สำคัญในปี 2541 อันได้แก่ บริษัทฯ มีกำไรโดยรวมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 และสามารถลดต้นทุนในไตรมาสแรกของปีนี้ได้ถึง 83 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างธุรกิจใหม่ตั้งแต่เมื่อต้นปีถึงขณะนี้เป็นมูลค่าสูงถึง 687 ล้านเหรียญสหรัฐ หากพิจารณาถึงธุรกิจของวีสทีออนที่ดำเนินงานในระดับโลกแล้ว วีสทีออนสามารถสร้างรายได้จากภูมิภาคอเมริกาเหนือสูงถึงร้อยละ 54 ทวีปยุโรปคิดเป็นร้อยละ 25 ทวีปอเมริกาใต้คิดเป็นร้อยละ16 และเอเชียคิดเป็นร้อยละ 5
วีสทีออนมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงกลุ่มตลาดเป้าหมายที่ชัดเจน บริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ที่เกิดจากกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นนอกเหนือจากฟอร์ดให้ได้ร้อยละ 20 หรือมากกว่า ด้วยการขยายโอกาสในการเจาะกลุ่มตลาด OEM ตลาดอุปกรณ์หลังการขาย (Aftermarket) และธุรกิจที่เกี่ยวข้องนอกเหนือจากธุรกิจยานยนต์ วีสทีออนได้พัฒนาบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญในด้านการตลาด การขาย และการบริการระดับโลกจำนวน 200 คนกระจายอยู่ใน 4 ภูมิภาคทั่วโลก เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับการบริการที่ดีที่สุด
"ความสำเร็จของเราในวันนี้คือผลพวงจากการทุ่มเททำงานหนักของทีมงานวีสทีออนทุกคน" มร. ซูลุค กล่าวและเสริมว่า "ในปี 2541 นี้เป้าหมายสำคัญคือเรายังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์คุณค่าให้กับผู้ถือหุ้น ด้วยการสร้างผลกำไรและการเติบโตทางธุรกิจจากการส่งมอบคุณประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าของเรา ทั้งในด้านคุณภาพที่มีรางวัลเป็นเครื่องรับรอง การบริการชั้นเลิศ และการนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงให้แก่ลูกค้า"
วีสทีออน ออโตโมทีฟ ซีสเต็มส์ เป็นองค์กรในเครือของฟอร์ด มอเตอร์ มีพนักงานจำนวนกว่า 80,000 คน ประจำอยู่ในโรงงาน 78 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงโรงงานร่วมทุน 32 แห่ง สำนักขาย 33 แห่ง และศูนย์วิศวกรรมและเทคนิค ที่ตั้งอยู่ใน 20 ประเทศทั่วโลก ในประเทศไทยวีสทีออนมีโรงงงาน 2 แห่งที่จังหวัดระยอง ดำเนินการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์ให้กับ แผนกระบบอุปกรณ์ภายใน แผนกระบบอิเล็กทรอนิกส์ แผนกระบบส่งกำลัง และแผนกระบบปรับอากาศของบริษัทฯ
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
Denise Bither
วีสทีออน ออโต้โมทีฟ ซิสเต็มส์
โทร: 313-248-4063
โทรสาร: 313-845-9111
อีเมลล์: dbither@visteonet.com
หรือ
ดวงกมล อิศรพันธุ์ หรือพรทิพย์ เลิศเวชกุล
เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ (ประเทศไทย)
โทร. 252-9871-7
อีเมลล์: I_Duangkamon@bm.com-- จบ--