กรุงเทพ--21 มี.ค.--กรมการศึกษานอกโรงเรียน
นางกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อธิบดีกรมการศึกษานอกโรงเรียน ได้ กล่าวตอนหนึ่ง ในการประชุมสัมนาในโครงการพัฒนาบุคลากรเครือข่ายเพื่อจัดศูนย์ การเรียน ซึ่งจัดโดยกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ (เมื่อ เร็ว ๆ นี้ที่ผ่านมา) ว่า เครือข่ายนั้นถือได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่สำคัญที่สุดในการ ดำเนินการจัดการศึกษานอกโรงเรียน ซึ่งมีภารกิจเร่งด่วนที่จะต้องขอความร่วมมือ ในพัฒนาปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานการศึกษานอกโรงเรียน ในเรื่องดังต่อไป นี้คือ
1. จะต้องพัฒนาและขยายโอกาสทางการศึกษานอกโรงเรียนให้มีรูป แบบกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยจะต้องมีรูปแบบของยุทธศาสตร์ในการดำเนินงาน คือ
1. การดำเนินงานแบบโปรยหว่าน ประชาสัมพันธ์ทั่วทุกแห่ง เพื่อ ให้ประชาชนได้ทราบถึงการจัดการศึกษานอกโรงเรียน
2. วิธีการใช้ครูอาสา หรือครูประจำกลุ่มเข้าไปปะชิดติดตัวชักชวน ให้เรียนกศน.
3. ประสานกับกลุ่มที่ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์การเรียน หรือที่สอน อยู่แล้วให้ดำเนินการร่วมกัน
4. จัดตั้งศูนย์การเรียนชุมชนให้ทุกตำบลเพื่อเป็นการตรึงพื้นที่ เพื่อ ที่จะอำนวยความสะดวกให้คนที่สนใจได้สมัครได้ที่ศูนย์การเรียนชุมชนในตำบลแห่งนั้น
โดยไม่ต้องเดินทางไกล
5. ใช้ระบบทางไกลเข้ามาพัฒนางาน ซึ่งในอนาคตควรที่จะมีการ พัฒนาปรับปรุงให้มีการลงทะเบียนเรียนทางไปรษณีย์ หรือ สมัครเรียนทาง คอมพิวเตอร์
2. จะต้องพัฒนาเนื้อหาสาระให้เหมาะสมกับผู้เรียน คือ จะต้องมีการ เชื่อมโยงระบบเนื้อหาการเรียนการสอนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แบ่งเป็นของใคร ส่วนใดส่วนหนึ่ง เพื่อให้เอื้อต่อการศึกษาของนักศึกษา ตามความต้องการและวิชาที่ เรียนในท้องถิ่นนั้น ๆ ให้มากยิ่งขึ้น
3. จะต้องมีการปรับการเรียนการสอนให้มีความเหมาะสมกับผู้ใหญ่และ มีรูปแบบที่หลากหลาย เช่นการจัดสอนเสริมให้ผู้ใหญ่ให้มากขึ้น ที่ขาดพื้นฐานทาง ด้านวิชา ริเริ่มจัดการเรียนทางคอมพิวเตอร์ในรูปของ ON Line เพื่อได้นักศึกษา ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้สามารถที่จะเรียนและทดสอบความสามารถตนเอง ได้ทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยการเปิดสอนจากหน้าจอ หรือส่งนักศึกษาของกศน. เข้าไปเรียนกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพราะภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ใน การแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตได้อย่างมาก
4. กรมจะพยายามให้การดำเนินงานโดยศูนย์การเรียนมีความคล่องตัว มากขึ้น โดยจะเน้นการกระจายอำนาจให้ศูนย์การเรียนที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา ให้ มีความคล่องตัวในการบริหาร จัดการ และจะต้องสร้างแรงจูงใจให้เครือข่ายใน การสร้างศูนย์การเรียนมากยิ่งขึ้น และต่อไปจะกระจายอำนาจไปยังศูนย์การเรียน ในลักษณะอื่น
5. ที่สำคัญที่สุดจะต้องช่วยกันพัฒนาคนและองค์กรให้มีความรู้ความเข้า ใจที่จะทำงานในรูปของเครือข่าย ซึ่งจะต่างไปจากการทำงานอย่างโดยเดี่ยวตาม ลำพัง
ถ้าการพัฒนาความร่วมมือและแนวทางการดำเนินการจัดการศึกษานอก โรงเรียนเป็นไปได้ดังกล่าวแล้ว กศน.เชื่อมั่นว่าโอกาสที่คนในชาติจะได้รับการ ศึกษาอย่างน้อย 12 ปี จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน อธิบดี กศน.กล่าว--จบ--