กรุงเทพฯ--12 ส.ค.--โฟร์ พี แอดส์
กรมควบคุมโรค ชวนคนไทยสร้างค่านิยมใหม่ ด้วยการใส่หน้ากากป้องกันโรคทุกครั้ง เมื่อป่วยเป็นหวัดหรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจต่างๆ เพื่อสร้างวินัยที่ดีในการป้องกันโรคและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ชี้!!ปัจจุบันมีทั้งโรคติดต่อและโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่มีความรุนแรงมากขึ้น “การใส่หน้ากากป้องกันโรค” จึงเป็นหน้าด่านสำคัญที่จะช่วยสกัดกั้นการแพร่กระจายของเชื้อโรค ไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยระหว่างร่วมกิจกรรมรณรงค์ “มหกรรมงานหน้ากากป้องกันโรค” ว่าปัจจุบันโรคติดต่อและโรคติดเชื้อต่างๆสามารถแพร่กระจายจากพื้นที่หนึ่งไปยังพื้นที่อื่นหรือประเทศอื่นได้ง่าย รวดเร็วและในวงกว้าง ทั้งนี้เป็นผลจากความเจริญทางด้านเทคโนโลยี ทั้งการสื่อสารและการคมนาคม ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจและธุรกิจการท่องเที่ยวฯลฯ มีโรคหลายชนิดที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบว่าขณะนี้มีการระบาดเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ จากรายงานยอดผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ของสำนักระบาดวิทยาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 26 กรกฎาคม 2557 พบว่าทั่วประเทศอยู่ที่ 44,091 ราย เสียชีวิต 56 ราย กลุ่มอายุที่พบป่วยมากที่สุดคือ 25-34 ปี รองลงมาคือ 35-44 ปี และ 7-9 ปีตามลำดับ ลำปางเป็นจังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุด ประมาณ 310.66 ต่อแสนประชากรรองลงมาคือ ระยอง ภูเก็ต กรุงเทพ และเชียงใหม่ ตามลำดับ
โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ง่าย ภายในครอบครัว ที่ทำงาน โรงเรียน โดยเชื้อที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย แพร่จากผู้ป่วยเมื่อไอ จาม และปนเปื้อนอยู่ที่ภาชนะ ของใช้ส่วนตัว หรือของใช้สาธารณะ เช่น ลูกบิด ปุ่มกดลิฟท์ ราวบันได ราวรถโดยสาร และติดต่อเข้าสู่ร่างกายโดยมือที่เปื้อนเชื้อ เมื่อแคะจมูก ขยี้ตา เอานิ้วเข้าปาก เป็นต้น กลุ่มเสี่ยงหลักๆที่อาจเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดได้ง่าย ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้มีภูมิต้านทานโรคต่ำ ผู้มีโรคอ้วน และผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ โรคนี้หากมีอาการที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ดังนั้นหากมีอาการสงสัยเป็นไข้หวัดใหญ่ให้หยุดเรียนหรือหยุดงาน รีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษา และใส่หน้ากากป้องกันโรคไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น
“เนื่องจากปัจจุบันมีทั้งโรคติดต่อและโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่มีความรุนแรงมากขึ้น แม้ระบบสาธารณสุขจะมีความพร้อมเพียงใด แต่หากประชาชนไม่เห็นความสำคัญและขาดความร่วมมือร่วมใจก็จะรับมือกับโรคต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ยาก “การใส่หน้ากากป้องกันโรค” ถือเป็นหน้าด่านสำคัญที่จะช่วยสกัดกั้นการแพร่กระจายของเชื้อโรค เป็นการสร้างวินัยที่ดีในการป้องกันโรค ประชาชนจึงควรตื่นตัวในการป้องกันตนเองและครอบครัวให้ปลอดภัยจากโรค ด้วยการสร้างค่านิยมใหม่ในการใส่หน้ากากป้องกันโรคเมื่อป่วยเป็นหวัดหรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ การใส่หน้ากากป้องกันโรคไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่เป็นการแสดงความใส่ใจและห่วงใยต่อคนรอบข้าง ในระยะแรกอาจเห็นเป็นเรื่องแปลก ไม่คุ้นชิน ใส่หน้ากากแล้วอึดอัด อาย กลัวถูกสังคมรังเกียจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนส่วนใหญ่จะเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา การที่ไอจามโดยไม่ปิดปากหรือไม่ใส่หน้ากากป้องกันโรค จะกลายเป็นเรื่องที่น่าอายมากกว่า ***จึงอยากให้ทุกคนรับผิดชอบต่อสังคมที่เราอาศัยอยู่ร่วมกัน เริ่มต้นที่คุณในวันนี้ด้วยการใส่หน้ากากป้องกันโรคทุกครั้งเมื่อป่วย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น*** หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค โทร 02-590-3159 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422" นายแพทย์โสภณ กล่าวปิดท้าย