กรุงเทพ--22 พ.ค.--กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2540 เวลา 11.30 น. นายอดิศร เพียงเกษ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดสถานีสูบน้ำ ด้วยไฟฟ้าบ้านโคกใหญ่ ต.โคกใหญ่ อ.โนนสูง จ.หนองบัวลำภู ของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน พร้อมพบปะประชาชนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ โดยมีนายประเทศ สูตะบุตร อธิบดีกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานคอยต้อนรับและชี้แจงในรายละเอียด
โดยที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม พื้นที่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตร ซึ่งมักจะประสบกับภาวะความแห้งแล้ง อันเกิดจากการขาดแคลนน้ำ และฝนทิ้งช่วง เป็นผลให้ผลผลิตไม่มากเท่าที่ควร กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม โดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการเร่งขจัดปัญหาความแห้งแล้งแก่พื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่นอกเขตโครงการชลประทาน โดยการจัดตั้งสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขึ้นที่บริเวณฝั่งของแหล่งน้ำที่มีน้ำบริบูรณ์ตลอดทั้งปีทั่วประเทศ ซึ่งสามารถส่งน้ำให้ เกษตรกรได้ทำการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี ในพื้นที่สถานีละประมาณ 500-3,000 ไร่ ทั้งนี้ราษฎรที่อยู่ บริเวณเพาะปลูกของโครงการ จะต้องยินดีมอบที่ดินบริเวณแนวคลองที่ส่งผ่านให้แก่กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานโดยไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ นอกจากนี้เกษตรกรยังต้องยอมรับภาระค่าไฟฟ้าที่ต้องใช้ในการสูบน้ำ เข้าพื้นที่ของตนในอัตรายูนิตละ 60 สตางค์ด้วย โดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน จะรับภาระจ่ายค่าไฟฟ้าสบทบอีก ยูนิตละ 57 สตางค์
สำหรับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านโคกใหญ่ ต.โคกใหญ่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู นี้ กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานได้ดำเนินการก่อสร้างสถานีฯ ที่บริเวณริมอ่างเก็บกักน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ในปี พ.ศ. 2538 ปัจจุบันได้ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ สามารถส่งน้ำให้ประโยชน์ในการเพาะปลูก การบริโภค-อุปโภค ได้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,700 ไร่ ใช้งบประมาณฝในการก่อสร้างทั้งสิ้น 5,026,161 บาท
นอกจากนี้กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน ยังมีความประสงค์ให้ราษฎรในเขตโครงการต่างๆ ที่ได้ทำการก่อสร้างเสร็จแล้ว ได้มีการรวมตัวเป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำในรูปนิติบุคคล เพื่อที่จะสามารถดำเนินธุรกิจในด้านต่างๆ ได้ เช่น การบริหารการใช้น้ำ การดูแลรักษาระบบส่งน้ำ การจัดเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้า ตลอดจนการวางแผนการผลิตและการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการแบ่งเบาภาระของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน ในการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายสมบูรณ์ของโครงการในการเพิ่มผลิตและรายได้ให้แก่ราษฎรในเขตพื้นที่โครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ดังนั้น กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน จึงได้ติดต่อขอความร่วมมือจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อดำเนินการจัดตั้งสหกรณ์ผู้ใช้น้ำ ในเขตโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า โดยเปลี่ยนจากกลุ่มผู้ใช้น้ำเดิม ซึ่งได้เริ่มดำเนินการจัดตั้งเป็นสหกรณ์ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2530 เป็นต้นมาปีละประมาณ 50 แห่งจนครบตามจำนวนโครงการที่มีอยู่ทั้งหมด
จะเห็นได้ว่า โครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานเป็นโครงการที่มีลักษณะพิเศษที่ราษฎรได้ให้ความร่วมมือ โดยยินยอมสละที่ดินให้ทำการก่อสร้างคลองส่งน้ำ โดยมิได้เรียกร้องค่าทดแทนกรรมสิทธิ์ที่ดินแต่อย่างใด ทำให้การก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จสามารถส่งน้ำให้เกษตรกรใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว ในระยะแรกภายในเวลา 1/2-2 ปี อีกทั้งยินดีจ่ายค่ากระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ตามอัตราที่กำหนดและจะรับงานของโครงการไปบริหารงานกันเองในรูปของสหกรณ์ต่อไป เป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาลได้เป็นอยางมากอีกด้วย--จบ--