กรุงเทพ--13 ม.ค.--Asia Pacific Consensus
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินอาหารแห่งเอเชียแปซิฟิก ได้ตกลงในความเห็นเดียวกัน ในการขจัดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori / H.pylori) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียซึ่งอยู่ในกระเพาะอาหารของประชากรนับล้าน ๆ คนในภูมิภาคนี้ H.pylori มีความสัมพันธ์กับโรคทางกระเพาะอาหารหลายอย่าง บางอย่างอาจมีผลต่อชีวิตได้ เช่น ตั้งแต่ ไม่สามารถย่อยอาหารได้ เกิดแผลในกระเพาะอาหาร จนถึงมะเร็ง
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คนซึ่งได้รับทุกข์ทรมานจากภาวะโรคทางอาหารควรปรึกษาแพทย์ และขอคำแนะนำเกี่ยวกับ H.pylori เพื่อรับการรักษา โดยแท้จริงแล้ว การติดเชื้อ H.pylori อาจสามารถรักษาได้แม้รับการรักษาจากแพทย์เพียงครั้งเดียวซึ่งแพทย์บางทางอาจยังไม่ตระหนักว่าการวินิจฉัย และการรักษา ไม่ได้ยุ่งยากดังที่คาด
Asia Pacific Consensus ได้แถลงเป็นครั้งแรก ถึงหลักเกณฑ์การขจัดเชื้อ H.pylori โดยใช้ "triple therapy" คือตัวยา 3 ชนิด ซึ่งประกอบด้วย ยาต้านจุลชีพ 2 ชนิด (Clarithromycin และ Amoxicillin หรือ Metronidazole กับ Acid blocker 1 ชนิด) การรักษานี้ได้แนะนำสำหรับผู้ซึ่งติดเชื้อ H.pylori และได้รับความทรมานจากภาวะท้องอืดอาหารไม่ย่อย กระเพาะหรือลำไส้เป็นแผล หรือรับการผ่าตัดจากภาวะมะเร็งกระเพาะอาหารขั้นต้น
ที่ประชุมได้กำหนดขึ้นเนื่องจากการติดเชื้อ H.pylori เป็นโรคที่พบมากในเอเชียแปซิฟิก พบว่าประชากรประมาณ 90% มีการติดเชื้อนี้ ในบางประเทศ H.pylori ทำให้เกิดโรคทางกระเพาะเนื่องจากมีผลต่อเยื่อบุกระเพาะ และเป็นสาเหตุของมะเร็งอาหารซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ถึงแม้ว่า H.pylori ได้ ถูกจัดเป็นสาเหตุของมะเร็ง (Carcinogen) มานานแล้ว แต่ยังไม่มีมาตรการชัดเจนถึงการขจัดเชื้อตัวนี้
ศาสตราจารย์ Shiu Kum Lam ภาควิชาอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัย ฮ่องกง ซึ่งเป็นประธาน Consensus team และประธานที่ประชุมวันนี้ได้กล่าวว่า "ผู้ใหญ่ทุก 1 ใน 5 คน จะมีปัญหาในการย่อยอาหารในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกนี้ การขจัด H.pylori เป็นสิ่งที่จำเป็นเนื่องจากคนไข้มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมากกว่าคนปกติถึง 3 เท่า และเป็นโรคแผลในทางเดินอาหารมากกว่าคนปกติ 2 เท่า ถึงแม้อาการทั่วไปจะแสดงออกเหมือนเช่นอาการโรคกระเพาะอื่น ๆ แต่คณะกรรมการก็มีมติว่า แพทย์ทั่ว ๆ ไป ควรให้ความสนใจในการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อรักษาคนไข้ให้หายขาดซึ่งสามารถทำได้ไม่ยากดังที่คิด"
การติดเชื้อ H.pylori จะสัมพันธ์กับสภาวะความเป็นอยู่เศรษฐกิจ ดังเช่นที่มักพบในประเทศกำลังพัฒนา และเชื้อมักจะติดต่อโดยทางระบบทางเดินอาหารไปยังบุคคลใกล้ชิด จากการค้นคว้าพบว่าการติดต่อได้สูงขึ้นจากการใช้ตะเกียบ การใช้ภาชนะจานชามร่วมกัน การรับประทานอาหารโดยมือ ฯลฯ ซึ่งพบได้ปกติในวิถีชีวิตชาวเอเชีย
เมื่อมีการติดเชื้อ H.pylori ถ้าไม่มีการขจัดเชื้อที่ถูกต้อง ก็คงไม่สามารถขจัดเชื้อออกจากร่างกายได้ โดยทั่วไปมักให้แต่ยาต้านจุลชีพชนิดเดียว ร่วมกับยาสกัดกั้นการหลั่งของกรด ซึ่งไม่สามารถขจัดเชื้อได้อย่างสมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญได้ลงมติจากที่ประชุมนี้อย่างเอกฉันท์ว่า การรักษา H.pylori จำเป็นต้องใช้ยา 3 ชนิดซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถขจัดเชื้อได้ถึง 90% และลดอัตราการกลับเป็นซ้ำขึ้นมาใหม่ ยาต้านจุลชีพที่เป็นตัวหลักคือ Clarithromycin จะเป็นตัวยืนในหลาย ๆ ทางเลือก เพราะจากการทดลองมาในทางเลือกต่าง ๆ พิสูจน์แล้วว่า ทางเลือกในการรักษาที่ไม่มี Clarithromycin ส่งผลให้การขจัดเชื้อจะลดลงถึงมากกว่า 10% และยังทำให้การรักษาไม่คุ้มค่าในระยะยาวเพราะคนไข้มีโอกาสเป็นซ้ำอีก
Nick Talley ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ทางอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัยออสเตรเลีย ผู้เป็นประธานร่วมในการประชุมกล่าวว่า "การรักษาอาหารไม่ย่อยในแต่ละประเทศอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง เนื่องจากระบบสาธารณสุข และเศรษฐกิจ แต่ถ้าคำนึงถึงความคุ้มค่าในระยะยาว พบว่า การขจัดเชื้อ H.pylori โดยใช้ยา 3 ชนิด จะคุ้มค่าที่สุด และลดความเสี่ยงของปัญหาโรคกระเพาะในระยะยาว พวกเราในที่ประชุมนี้ค่อนข้างมั่นใจจากแนวทางที่ลงมติกัน จะช่วยให้แพทย์ทั่วไปมีรูปแบบในทางปฏิบัติ เพื่อการรักษาการติดเชื้อ H.pylori อย่างมีประสิทธิภาพ--จบ--