จีเอฟ เผยผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2540

ข่าวทั่วไป Tuesday April 22, 1997 12:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--22 เม.ย.--บงล.จีเอฟ
จีเอฟ เผยผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2540 มีสินทรัพย์รวม 62,562.8 ล้านบาท รายได้รวม 2,027.7 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 74.9 ล้านบาท เตรียมแผนลดต้นทุนเงินทุน ลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานทุกด้าน
ม.ร.ว.สุชาติจันทร์ ประวิตร ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ จีเอฟ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2540 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2540 ซึ่งยังไม่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชี ว่า บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 62,562.8 ล้านบาท เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 54,608.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 14.5 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,027.7 ล้านบาท เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2539 มีจำนวน 1,965.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 2,102.7 ล้านบาท เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 1,755.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.8 ทำให้บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิจำนวน 74.9 ล้านบาท และขาดทุนต่อหุ้น 0.54 บาท
ม.ร.ว.สุชาติจันทร์ กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในด้านธุรกิจเงินทุนยังคงเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว แต่เนื่องจากภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัวมากในระบบการเงิน ทำให้การระดมเงินทุนของบริษัทฯ มีต้นทุนสูงขึ้น นอกจากนี้ ฝ่ายจัดการยังได้กันเงินไว้เพื่อสำรองเพิ่มขึ้นถึง 101 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้สุทธิในส่วนธุรกิจเงินทุนลดต่ำลง
ในส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์ แม้บริษัทฯ จะสามารถเพิ่มสัดส่วนแบ่งการตลาดจากร้อยละ 2.42 ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2539 เป็น 2.54 ในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่เมื่อมูลค่าการซื้อขายโดยรวมลดลงถึงร้อยละ 45 จึงทำให้รายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทลดลงด้วย
อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.สุชาติจันทร์ เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานของบริษัทฯ ในระยะต่อไปจะเข้าสู่ภาวะปกติเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจการเงินที่ซบเซา เช่นในปัจจุบันจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ แนวทางการแก้ปัญหาของรัฐ รวมทั้งมาตรการตั้งสำรองหนี้ต่ำกว่ามาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทยจะชัดเจนขึ้น
ในส่วนของบริษัทฯ ได้พยายามลดต้นทุนทางการเงิน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ฝากเงินรวมทั้งลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงได้ประมาณร้อยละ 5 และลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการพนักงานลงถึงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ทางด้านธุรกิจหลักทรัพย์ บริษัทฯ ยังมีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนแบ่งการตลาดให้สูงขึ้นอีก โดยมีโบรกเกอร์จากต่างประเทศหลายแห่งที่พร้อมจะส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่บริษัทฯ เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากไพร์มอีสต์ และแคสเปี้ยน ซิเคียวริตี้ส ซึ่งได้มีการลงนามในข้อตกลงไปแล้ว
สำหรับแนวทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในอนาคตนั้น ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหารของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ จีเอฟ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาทางเลือกต่าง ๆ หลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการควบกิจการกับสถาบันการเงินอื่น เพื่อให้ได้รับสิทธิให้สามารถทำธุรกิจได้เพิ่มขึ้น หรือการคงสภาพเดิมไว้เป็นสถาบันการเงินที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ทั้งนี้ เพื่อพิจารณาว่าแนวทางใดจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น พนักงาน รวมทั้งลูกค้า และนักลงทุนทั่วไป นอกจากนี้จะต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐด้วย--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ