กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--Worklink da Agency
ECF โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 กวาดรายได้ 307.04 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13.56 ล้านบาท โตกระฉูด 222% คาดครึ่งปีหลังตลาดในประเทศคึกคัก เข้าช่วงไฮซีซั่นธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เดินหน้าเพิ่มออร์เดอร์ตลาดต่างประเทศ ดันยอดขายพุ่ง มั่นใจรายได้ทั้งปีมีแววโตตามเป้าหมาย 15%
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เปิดเผยถึงผลประกอบการ ไตรมาส 2/57 ว่า บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 307.04 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 34.16 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม จำนวน 272.88 ล้านบาท หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.52 % และมีกำไรสุทธิจำนวน 13.56 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.35 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 4.21 ล้านบาท หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 222%
ขณะที่ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 2557 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 641.86 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 81.41 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม จำนวน 560.45 ล้านบาท หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.53 % และมีกำไรสุทธิจำนวน 36.15 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.34 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 14.82 ล้านบาท หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 144%
สาเหตุที่ผลประกอบการของ ECF ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดเพิ่มขึ้น โดยเป็นผลจากการบุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าเดิมในประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนกลุ่มลูกค้าใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง มีคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งบริษัทยังมีการควบคุมต้นทุนการผลิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้อัตราส่วนกำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังตลาดในประเทศมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยให้ยอดขายของบริษัทเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรก ทั้งนี้บริษัทได้มีกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายโดยออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มช่องทางจำหน่ายในประเทศให้มากขึ้น ตามการขยายตัวของโมเดิร์นเทรดต่างๆ ขยายโชว์รูม ELEGA เจาะลูกค้าระดับบน และเจรจากับลูกค้าใหม่ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาปรับใช้คาดว่าน่าจะส่งผลดีกับยอดขายของบริษัท อีกทั้งมีความเป็นไปได้ว่าจะทำให้รายได้รวมของบริษัทปีนี้มีการเติบโตตามเป้าหมายที่ 15%