มาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) ผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ฐานสนับสนุนของแกนนำชุมชนต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของหัวหน้า คสช. และการทำงานของ คสช.

ข่าวทั่วไป Wednesday August 13, 2014 12:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--มาสเตอร์โพลล์ มาสเตอร์โพลล์ (Master Poll)ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชนเสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องฐานสนับสนุนของแกนนำชุมชนต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ หัวหน้า คสช. และการทำงานของ คสช. รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล รองประธานมาสเตอร์โพลล์ ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) เรื่อง ฐานสนับสนุนของแกนนำชุมชนต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ หัวหน้า คสช. และการทำงานของ คสช. กรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 601 ชุมชน ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 2 - 9 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา พบว่า แกนนำชุมชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.2 ติดตามรับชมรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ในขณะที่ร้อยละ 19.8 ไม่ได้ติดตามชม และที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.3 ระบุปัญหาแตกแยกทางการเมืองของคนในชุมชนมีค่อนข้างน้อยถึงไม่มีปัญหาเลย ในขณะที่เพียงร้อยละ 9.7 ระบุมีปัญหาค่อนข้างมากถึงมากที่สุด เมื่อสอบถามถึงความพึงพอใจของแกนนำชุมชนต่อการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของ คสช. ด้านสังคม เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า อันดับแรกได้แก่ การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ 9.54 คะแนน รองลงมาอันดับ 2 ได้แก่ การเตรียมการจัดกิจกรรมในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม ได้ 9.31 คะแนน อันดับ 3 ได้แก่ การเข้มงวดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด การพนัน การบุกรุกป่าไม้ ได้ 9.06 คะแนน อันดับ 4 ได้แก่ การปราบปรามจับกุมอาวุธสงคราม ได้ 8.99 คะแนน อันดับ 5 ได้แก่ การส่งเสริมความรักความสามัคคีของคนในชาติ ได้ 8.75 คะแนน และรองๆ ลงไปได้แก่ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว การค้ามนุษย์ การตั้งศูนย์จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ และการส่งเสริมค่านิยมหลัก 12 ประการ เช่น มีวินัย มีน้ำใจ ช่วยเหลือเกื้อกูล เป็นต้น ในด้านการเมือง ผลสำรวจพบว่า ความพึงพอใจของแกนนำชุมชนต่อการปฏิบัติงานของ คสช. อันดับแรก ได้แก่ การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในกลุ่มนักการเมืองและข้าราชการ ได้ 8.58 คะแนน อันดับ 2 ได้แก่ การใช้อำนาจ คสช. ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้ 8.57 คะแนน อันดับ 3 ได้แก่ การยอมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของ คสช. ได้ 8.49 คะแนน อันดับ 4 ได้แก่ การบริหารประเทศโดย คสช. ได้ 8.27 คะแนน อันดับ 5 ได้แก่ การเตรียมการปฏิรูปประเทศ ได้ 8.20 คะแนน และรองๆ ลงไปคือ การกระชับความสัมพันธ์กับประเทศสิงคโปร์และกัมพูชา การลดความกดดันทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ การลงนามความร่วมมือของกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง กับจีนและเกาหลี และการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการประชาชนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นต้น ในด้านเศรษฐกิจ พบว่า อันดับแรก ได้แก่ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งด้านอาชีพ รายได้และความเป็นอยู่ได้ 8.16 คะแนน อันดับ 2 ได้แก่ การแก้ปัญหาเรื่อง ข้าว ได้ 8.10 คะแนน อันดับ 3 ได้แก่การรักษาวินัยการเงินการคลัง ได้ 8.07 คะแนน อันดับ 4 ได้แก่ การสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้ 8.06 คะแนน อันดับ 5 ได้แก่ การวางแผนการลงทุนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ได้ 7.95 คะแนน และรองๆ ลงไป ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุน การส่งเสริมการส่งออกและการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของประเทศโดยภาพรวม การกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการลงทุนกับประเทศจีน การลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร และ การแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย เป็นต้น ที่น่าพิจารณา คือ คะแนนความพึงพอใจโดยภาพรวมของแกนนำชุมชนต่อการทำงานที่ผ่านมาของ คสช. พบว่า ด้านสังคม ได้ 8.55 คะแนน ด้านการเมือง ได้ 8.18 คะแนน และด้านเศรษฐกิจได้ 7.91 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนนและที่น่าสนใจคือ การสนับสนุนของแกนนำชุมชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.3 สนับสนุนค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ