กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--เคพลัส พีอาร์
“วันชัย เหลืองวิริยะ” เผย AKP ทำกำไรโค้ง 2 ปี 57 พุ่งกว่า 360% หลังปริมาณขยะเข้ากำจัดเพิ่ม หนุนรายได้จากการให้บริการโตทะลุ 27% ในขณะที่คุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายยอดเยี่ยม ส่งผลให้กำไรขยายตัวโดดเด่น
นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) (AKP) ผู้บริหารศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเตากำจัด กากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยวิธีการเผาด้วยความร้อนสูงที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย เปิดเผยถีงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2557 (เมษายน-มิถุนายน 2557)ว่า บริษัทฯมีรายได้จากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรม จำนวน 141.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 30.79 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 27.77 เมื่อเทียบกับ ไตรมาส 2 ของปี2556 ที่ทำได้ 110.92 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากปริมาณกากอุตสาหกรรมที่รับกำจัดเพิ่มขึ้น คิดเป็นอัตราร้อยละ 14.10 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้สะสม 6 เดือนจำนวน 254.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 45.94 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 22.03 เมื่อเปรียบเทียบ กับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่ทำได้ 208.52 ล้านบาท
ประกอบกับได้บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนให้ต้นทุนจากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรม สำหรับไตรมาส 2 ของปี 2557 ลดลงเมื่อคิดเป็นอัตราส่วนต่อรายได้จากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรมเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสที่ 2/2557 บริษัทฯ มีต้นทุนจากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรม จำนวน 104.93 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 74.04 ของรายได้เมื่อเทียบกับปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 89.15 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อย 80.37
ทั้งนี้ สาเหตุที่อัตราส่วนต้นทุนลดลงเกิดจากการประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงที่ใช้ในการเผา ค่าใช้จ่ายในการขนส่งและค่าเครื่องมืออุปกรณ์ลดลงเนื่องจากลดการพึ่งพิงจากภายนอก ส่วนต้นทุนคงที่อันประกอบไปด้วย เงินเดือนและผลตอบแทนพนักงาน ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรและอุปกรณ์ ยานพาหนะเพื่อการขนส่ง ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ ในขณะที่บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่ในอัตราใกล้เคียงกันเมื่อเทียบกับรายได้รวม ส่งผลให้ต้นทุนสะสม 6 เดือน สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 2557 มีจำนวน 182.99 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อย 71.91 จากปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 161.22 ล้านบาท หรือร้อยละ77.31 ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสำหรับไตรมาส 2 จำนวน 15.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.48 ล้านบาท หรือร้อยละ 363.64 จากปีก่อนที่ทำได้ 3.43 ล้านบาท และยอดสะสม 6 เดือนจำนวน 27.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่ทำได้ 14.66 ล้านบาท