กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โชว์ศักยภาพความเป็นมืออาชีพในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2557 ยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง มียอดรับรู้รายได้ที่ 662.46 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13% โดยบริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ยอดขายปรับเพิ่มขึ้นแต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับลดลง ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 2 นี้บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 136.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 25% พร้อมกันนี้ บอร์ดมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.135 บาท
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2557 นี้ว่า บริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากที่ขยายตัวได้ดีในไตรมาสแรก ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดรับรู้รายได้เข้ามาแล้วกว่า 1,318 ล้านบาท ซึ่งสามารถขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 10% แม้ว่าปัจจัยภายนอกในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม จากปัญหาความขัดแย้งทางการการเมืองและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ด้วยแผนกลยุทธ์ที่ทางบริษัทได้วางเอาไว้ ประกอบกับการบริหารอย่างมืออาชีพ ช่วยให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีตัวเลขกำไรที่สูงที่สุดในรอบกว่า 8 ปี โดยบริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายในปี 2557 ไว้ที่ 3,200 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 2,700 ล้านบาท
ในแง่ของการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ บริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยในไตรมาสที่สองนี้ มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 38.4% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ประกอบกับความสามารถในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่างๆได้ดี โดยในไตรมาส 2/2557 นี้แม้บริษัทจะมียอดรับรู้จากการขายที่ปรับเติบโตขึ้นกว่า 13% แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับลดลงประมาณ 5% ส่งผลให้มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A/Sales) ปรับลดลงมาอยู่ที่ 9.5% จากที่ในช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 11.2% ส่งผลให้ในไตรมาสที่สองนี้บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 136.03 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ที่ 20.5% ซึ่งนับเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิที่ดีเป็นลำดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.135 บาท ซึ่งหากรวมกับเงินปันผลที่บริษัทจ่ายไปก่อนหน้าสำหรับผลประกอบการงวดครึ่งหลังปี 2556 ที่อัตราหุ้นละ 0.125 บาท จะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ประมาณ 6 % โดยการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 29 สิงหาคม 2557 (หรือขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 สิงหาคม 2557) และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 กันยายน 2557
“ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันกลับมาสดใสและคืนสู่สภาวะปกติแล้ว หลังจากที่มีการดำเนินการทางเศรษฐกิจและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมในหลายด้าน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 นี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่อีกกว่า 5-7 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีการเจริญเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต” นายไชยยันต์ กล่าวในท้ายที่สุด