กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี
ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี เตือนประชาชนเขตน้ำท่วมระวังโรคอาหารเป็นพิษ แนะยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อาหารค้างคืนต้องอุ่นให้เดือดก่อนรับประทาน
นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ประชาชนหลายจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบโดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษที่กำลังผจญกับวิกฤติน้ำท่วมขังอยู่ในขณะนี้ ต้องระมัดระวังเรื่องการบริโภคอาหารเป็นพิเศษ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยด้วยโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารเป็นพิษ และโรคท้องร่วง หากบริโภคอาหารที่ไม่สะอาด โดยหลังรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไปประมาณ 1-7 ชั่วโมง จะมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ท้องเสีย ปวดท้อง อ่อนเพลีย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการมักไม่รุนแรง ในเบื้องต้นประชาชนสามารถรักษาโรคนี้ได้เอง โดยดื่มสารละลายเกลือแร่แทนน้ำเปล่า ไม่ซื้อยาฆ่าเชื้อมารับประทานเอง หากมีอาการรุนแรง อาจเกิดตะคริวที่ท้อง ชักกระตุก ช็อก และหมดสติ ให้รีบไปพบแพทย์
นพ.ศรายุธ กล่าวต่อว่า ข้อมูลของกลุ่มระบาดวิทยาฯ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 2 สิงหาคม 2557 พบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษทั้งประเทศรวม 76,463 ราย ส่วนในเขตรับผิดชอบของ สคร.7 พบผู้ป่วยทั้งหมด 12,154 ราย พบมากที่สุดในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี 4,680 ราย รองลงมา คือ จ.ศรีสะเกษ 2005 ราย ไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิต
สำหรับการป้องกันโรคอาหารเป็นพิษที่ดีที่สุดคือ ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อาหารค้างคืนต้องอุ่นให้เดือดก่อน ในกลุ่มอาหารทะเลต้องปรุงสุก หลีกเลี่ยงการปรุงโดยวิธีลวกหรือพล่าสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะกุ้ง หอย ปลาหมึก ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ควรรับประทานทันที หรือไม่เกิน 2 - 4 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ ส่วนอาหารถุงและอาหารกล่อง ควรบรรจุแยกกันระหว่างข้าวและกับข้าว ควรรับประทานภายใน 4 ชั่วโมง อาหารบริจาคเช่น อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องกระป๋อง ก่อนบริโภคขอให้ตรวจดูวันหมดอายุ ดูสภาพสีกลิ่น และภาชนะบรรจุ หากหมดอายุหรือมีลักษณะผิดปกติ เช่น กระป๋องบุบ บวม มีสนิมให้ทิ้งทันที.นพ.ศรายุธ กล่าวปิดท้าย
ข้อความสำคัญ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ”