กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
LHBANK เผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2557กำไรสุทธิ 533 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.9%สินทรัพย์รวม 155,202 ล้านบาท สินเชื่อเติบโตจากสิ้นปี 5.1% สินเชื่อด้อยคุณภาพ ต่ำเพียง 1.88%เผยครึ่งปีหลังยังเดินหน้าขยายสินเชื่อ และเพิ่มกลยุทธ์ด้านบริการ
นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) แถลงผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2557 ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์ เชียล กรุ๊ป ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ว่า แม้ในช่วงครึ่งปีแรกต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน ทั้งการเมืองภายในประเทศ และสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทในครึ่งแรกปี 2557 โดยรวมอยู่ในระดับดี และตอกย้ำความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ด้วยการขยายบริการทางการเงินที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Securities) ในเดือนสิงหาคม 2557 และมีบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แอดไวเซอรี่ (LH Advisory) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน รวมทั้งธนาคารได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด อยู่ที่ระดับ “A-” (Single A Minus) และแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” สิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงถึงสถานะทางธุรกิจและการเงินของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2557 มีกำไรสุทธิ 533 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.9% ส่วนใหญ่ มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้จากเงินปันผล และกำไรจากเงินลงทุน คุณภาพสินเชื่อจัดอยู่ในเกณฑ์ดี มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ที่ต่ำเพียง 1.88% ของเงินให้สินเชื่อรวม เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของระบบธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ที่ 2.3% รวมทั้งธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่145.1% ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านเงินสำรองของธนาคาร และเพื่อรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านสินทรัพย์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2557 มีสินทรัพย์รวม 155,202 ล้านบาท มีเงินให้สินเชื่อรวม 114,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 5.1% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.6% เป็นผลจากการผลักดันกลยุทธ์ในการมุ่งเน้นสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ และมีอันดับ Credit Rating ที่ดี โครงสร้างสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่คิดเป็น 51% รองลงมาเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 30% ของเงินให้สินเชื่อทั้งหมด
ด้านเงินฝากและเงินกู้ยืมอยู่ที่ 116,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.0% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 23.0% เป็นผลมาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แบบไม่ประจำ การขยายสาขาเพิ่มขึ้น ปัจจุบันสาขาของธนาคารมีทั้งสิ้น 115 สาขา เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 14 สาขา แบ่งเป็นสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 60 สาขา และสาขาในภูมิภาค 55 สาขา
ด้านความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2557 อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 12.56% และเงินกองทุนทั้งสิ้นอยู่ที่ 13.16% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.50% เงินกองทุนที่แข็งแกร่งนี้จะสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจ สร้างความหลากหลายทางธุรกิจได้ในอนาคต และช่วยให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง
ธนาคารได้พัฒนาบริการต่างๆ ให้มีความครอบคลุมตามความต้องการของลูกค้า เช่น บริการ Cash Management ที่ช่วยตอบโจทย์การจัดการธุรกิจให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบวงจรซึ่งเป็นบริการที่ช่วย ลดภาระการทำงานเอกสาร การเพิ่มช่องทางรับชำระค่าสินค้าและบริการ, บริการบัตร ATM LH Bank ที่ลูกค้าสามารถถอน/โอน หรือสอบถามยอดเงิน ผ่านตู้ ATM ได้ทุกตู้ ทุกธนาคาร ทุกที่ ทั่วไทย แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง และฟรีค่าธรรมเนียมทุกการกด, บริการ Internet Banking, บริการธนาคารบนมือถือ, บริการ SMS Alert ที่จะส่งข้อความ SMS แจ้งเตือนเมื่อมีเงินเข้าออกบัญชีเงินฝากผ่านโทรศัพท์มือถือ การอำนวยความสะดวกให้แก่นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ถือบัตร CUP JCB ให้สามารถถอนเงินสด (สกุลเงินบาท) ได้ที่ ตู้ ATM LH Bank ทุกตู้ ทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงการให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Currency Exchange)
นางศศิธร กล่าวถึงแผนกลยุทธ์ในครึ่งปีหลังว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% โดยยังคงมุ่งเน้นขยายสินเชื่อที่มีคุณภาพ รวมถึงการวางกลยุทธ์ด้านการออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ บริการทางการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเน้นให้บริการ Bancassurance ที่ปัจจุบันขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม และเพื่อให้สอดรับกับการใช้บริการทางการเงินของคนรุ่นใหม่ธนาคารได้วางกลยุทธ์ด้วยการทำการตลาดผ่าน Social Media ต่างๆ เช่น Facebook Instagram LINE Youtube เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสารในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมาธนาคารได้ทำการตลาดผ่าน LINE โดยเปิดตัวสติกเกอร์ LINE ชื่อ "ตังค์ ตังค์ แมน" และ LH Bank LINE Official Account โดยนำคาแรคเตอร์ของ ตังค์ ตังค์ แมน มาออกแบบเป็นสมุดบัญชีเงินฝาก บัตร ATM และของพรีเมี่ยมต่างๆ ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูง มีระยะเวลาต่างๆ ให้เลือก โดยมีผลิตภัณฑ์เงินฝากไฮไลท์ของธนาคาร ได้แก่ เงินฝากไม่ประจำ ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 2.7% ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความคล่องตัวสูง กล่าวคือฝากถอนเมื่อไรก็ได้ดอกเบี้ยสูง นอกจากนี้ธนาคารได้เป็นตัวแทนขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างๆ รวมทั้งของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โดยปัจจุบัน LH Fund เป็นผู้บริหารกองทุนมูลค่า 32,000 ล้านบาท เป็นอันดับที่ 12 ของระบบ ซึ่งเป็นผลงานที่น่าพอใจอย่างมาก
ธนาคารได้ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นปี 2557 ธนาคารจะมีสาขา 118 สาขา ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งธนาคารได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HomePro) โดยธนาคารจะขยายสาขาไปในทุกจังหวัดที่ HomePro ตั้งอยู่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคาร ซึ่งทำให้ธนาคารมีสาขามากที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก
นางศศิธร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการดำเนินการด้านต่างๆ แล้ว ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับบุคลากรของธนาคารเป็นอย่างมาก โดยการพัฒนาและเพิ่มทักษะให้บุคลากรของธนาคารให้มีความรู้และความชำนาญในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน รวมทั้งระบบงานต่างๆ ของธนาคาร เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการอย่าง มืออาชีพ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการผลักดันแผนกลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จ เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน และสังคม