กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.พรพรหมเม็ททอล หรือ PPM เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2557 มีรายได้ 348.87 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 4.195 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร “ชำนาญ พรพิไลลักษณ์” แจงสาเหตุรายได้ลดลง เนื่องจากปัญหาทางการเมือง ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจชะลอตัวลง ครึ่งปีหลังเชื่อเศรษฐกิจฟื้น หลังการเมืองคลี่คลาย พร้อมเดินหน้าสรุปแผนลงทุนโครงการอาคารจอดรถอัจฉริยะและโครงการพลังงาน
นายชำนาญ พรพิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โลหะเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมและวัสดุเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง เปิดเผยถึงผลการดำเนินประจำงวดไตรมาส 2/2557 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 348.87 ล้านบาท ลดลง 4.15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 363.96 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิ อยู่ที่ระดับ 4.195 ล้านบาท ลดลง 68.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.24 ล้านบาท ทั้งนี้ การลดลงของรายได้และกำไรในไตรมาส 2/2557 มีสาเหตุมาจากปัญหาทางการเมืองส่งผลให้ภาคธุรกิจชะลอตัวลง
ส่วนผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 695.67 ล้านบาท ลดลง 10.87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 780.55 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิ อยู่ที่ระดับ 17.22 ล้านบาท ลดลง 57.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40.37 ล้านบาท
“ครึ่งแรกปีนี้ ปัญหาการเมืองเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมมีการชะลอตัว จึงมีผลต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรกเช่นกัน แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังภาครวมของเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง และหากว่าเศรษฐกิจดีขึ้นแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม” นายชำนาญ กล่าว
นอกจากนี้ นายชำนาญ ยังได้กล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นพอสมควรจากช่วงครึ่งแรกปีนี้ที่ผ่านมาหลังประเด็นการเมืองคลี่คลาย รวมทั้งน่าจะช่วยสนับสนุนให้เกิดคำสั่งซื้อใหม่ๆ จากภาคเอกชนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยพิจารณาจากดัชนีผู้บริโภคที่มีตัวเลขความมั่นใจที่ดีขึ้น
ดังนั้น จึงมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้จะดีขึ้นในครึ่งหลังของปี โครงการที่บริษัทดำเนินการในขณะนี้ เช่น โครงการการสร้างอาคารจอดรถอัจฉริยะ โครงการพลังงานทดแทน คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในครึ่งปีหลังนี้
อย่างไรก็ตาม โครงการการลงทุนในพลังงานทดแทน บริษัทฯ อยู่ระหว่างหารือกับพันธมิตร ซึ่งแผนการร่วมทุนดังกล่าวคาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้นหลังจากบอร์ดอนุมัติให้ศึกษาแผนการลงทุน หากได้ข้อสรุปคาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวประมาณ 400 ล้านบาท