กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมุ่งมั่นสืบสานวัฒนธรรมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้คงอยู่กับปวงชนชาวไทย เพื่อให้ผ้าไหมเป็นที่เลื่องลือสู่สากล ซึ่งไหมไทยเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศไทย พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องหมายตรานกยูงเพื่อรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทย ที่เน้นแหล่งที่มาของวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และที่สำคัญผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ต้องผลิตในประเทศไทยเท่านั้น เพื่อเทิดพระเกียรติและสนองพระราชปณิธานอันแน่วแน่และร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ กรมหม่อนไหมจึงจัดงาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557” ภายใต้คำขวัญ “รักไหมไทย ใส่ใจรักษ์โลก”ในระหว่าง วันที่ 21 – 25 สิงหาคม 2557 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยในปีนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเปิดงาน ในที่ 21 สิงหาคม 2557
เป้าหมายของการจัดงานนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ตรานกยูงพระราชทาน สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคในสินค้าผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยที่มีเครื่องหมายรับรองตรานกยูงพระราชทานว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ได้รับการตรวจสอบจากกรมหม่อนไหมถึงที่มา ของวัตถุดิบหลักที่นำมาผลิตต้องเป็นเส้นไหมไทย มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งคุณภาพ ความสม่ำเสมอของเนื้อผ้า สีย้อมและความคงทนของสีต่อการซัก สีย้อมที่ใช้ต้องเป็นสีที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน การใช้หรือการสวมใส่ผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน นอกจากจะให้ความรู้สึกสง่างามด้วยผ้าไหมมีความแวววาวเงางามลวดลายวิจิตรบรรจงเป็นเอกลักษณ์ และเกิดความภาคภูมิใจ ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมสืบสานอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอันดีงามของชาติแล้ว ยังเป็นการแสดงถึงความรักษ์โลกใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง นายชวลิต กล่าว
ทั้งนี้ งาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย”แนวคิด “รักไหมไทย ใส่ใจรักษ์โลก”ในปีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงสืบสานและทรงให้ความสำคัญกับผ้าไหมไทย และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ้าไหมไทยคุณภาพและผลิตภัณฑ์จากหม่อนและไหม แก่เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ผู้ทอผ้า เอกชน นักวิจัย นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจ ให้ได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับหม่อนไหมครบวงจร ตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจนถึงการดูแลรักษาผลิตภัณฑ์ไหมและการแปรรูป และยังเพื่อจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากหม่อนและไหม ซึ่งเป็นการสนับสนุนสินค้าอันเป็นผลิตผลจากภูมิปัญญาของเกษตรไทยทั่วประเทศ
ด้านนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า งาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย” ในปีนี้ จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับวงการหม่อนไหม โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ อาทิ เช่น การจัดแสดงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพร้อมแผนที่แสดงโครงการพระราชดำริทั่วประเทศ นิทรรศการตราสัญลักษณ์นกยูงพระราชทาน ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานให้เป็นสัญลักษณ์รับรองคุณภาพผ้าไหมไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ปัจจุบันได้จดทะเบียนไปแล้ว 35 ประเทศเกือบทุกภูมิภาคทั่วโลกแล้ว
นอกจากนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ แล้ว ภายใต้แนวคิด“รักไหมไทย ใส่ใจรักษ์โลก” กรมหม่อนไหมยังได้จัดนิทรรศการในเรื่องต่างๆ เช่น
- ผ้าไหม Cool Mode ลดโลกร้อน โดยออกแบบพัฒนาโครงสร้างผ้าไหมให้มีเนื้อผ้ามีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดหรือระบายความร้อนของผู้สวมใส่ ปัจจุบันผ้าไหมไทยในโครงการ ได้ผ่านการทดสอบจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอแล้ว และกำลังจะได้รับการขึ้นทะเบียน Cool Mode ในเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นสิ่งทอหัตถกรรมรายแรกของประเทศไทยที่ได้ขึ้นทะเบียนนี้ ซึ่งในงานจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับผ้าไหม Cool Mode และสาธิตการทำผ้าไหมให้นุ่มขึ้น
- Zero Wates แนวคิดสำหรับของเสียเหลือศูนย์ ประกอบด้วยกิจกรรมกระบวนการผลิตผ้าไหมและแปรรูปผลิตภัณฑ์หม่อนไหมทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ที่มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และไม่มีของเสียจากกระบวนการผลิต โดยแบ่งเป็นประโยชน์ด้านหม่อน ตั้งแต่รากจนถึงใบและด้านไหม ตั้งแต่หนอนไหมจนถึงเส้นไหมและผ้าไหม เครื่องนุ่งห่ม และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และยังแยก การใช้ประโยชน์จากน้ำกาวไหม ผงไหม เช่น เวชสำอาง วัสดุทางการแพทย์ เป็นต้น
- การพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าหม่อนไหมภายใต้ชุมชนสีเขียว หรือ Green City ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยจัดแสดงข้อมูลกระบวนการผลิตสินค้าหม่อนไหมภายใต้มาตรฐานอินทรีย์
และผลงานของกรมหม่อนไหมที่น่าสนใจ ได้แก่
- ไหมขัดฟัน งานวิจัยของกรมหม่อนไหมตั้งแต่ยังเป็นสถาบันวิจัยหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ภายใต้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว โดยจะมีการแสดงเส้นใยไหมขัดฟัน เครื่องผลิตเส้นไหมขัดฟัน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ผ้าไหม GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว ได้แก่ ผ้าไหมยกดอก จ.
ลำพูน ผ้าไหมมัดหมี่ จ.ขอนแก่น ผ้าไหมแพรวา จ.กาฬสินธุ์ และภูมิปัญญาการอบสมุนไพรของผ้าไหมเก็บบ้านเมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ที่กรมหม่อนไหมได้ดำเนินการยื่นขอจดทะเบียน GI อยู่ในขณะนี้
- มหัศจรรย์มัลเบอรี่ การปลูกต้นหม่อนแบบขั้นบันได้ มีการสาธิตการแปรรูปให้ชมและให้ชิมด้วย
- ไหมที่ไม่กินใบหม่อน หรือที่เรียกว่า ไหมป่า ได้แก่ ไหมอีรี่ และไหมดาหลา การเลี้ยงไหม วงจร
ชีวิตหนอนไหม และผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปหม่อนและไหม
- องค์ความรู้และสาธิตการย้อมสีเส้นไหมจากพืชชนิดต่าง ๆ และมีการแจกต้นกล้าไม้ย้อมสี
- งานวิจัยถั่งเฉ้าไหมไทย
- เส้นด้ายจากใยไหม และการแปรรูป กระบวนการทอ และลวดลายผ้าไหมโบราณ
สำหรับนิทรรศการแสดงผลงานประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ผลิตภัณฑ์จากรังไหม และการออกแบบชุดผ้าไหมระดับประเทศ ที่กรมหม่อนไหมได้ดำเนินการประกวดไปแล้วเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2557 นั้น มีผู้ชนะเลิศการประกวด จำนวน 16 ราย และจะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เช่น ผ้ามัดหมี่ลายโบราณสีธรรมชาติ จาก จ.สุรินทร์ ผ้าโฮลสีธรรมชาติ จ.สุรินทร์ ผ้าแพรวาสีธรรมชาติ จ.กาฬสินธุ์ และผ้าไหมเทคนิคผสม จ.ขอนแก่น เป็นต้น
และที่สำคัญ เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของผู้ประกอบอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม กรมหม่อนไหมยังจัดแสดงของผลงานเกษตรกรดีเด่นด้านหม่อนไหม การจัดแสดงตัวอย่างหมู่บ้านต้นแบบการผลิตหม่อนไหมดีเด่น และโรงเรียนนำร่องด้านหม่อนไหม
และแน่นอน ที่พลาดไม่ได้ คือการออกร้านจำหน่ายผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมไทย รวบรวมผ้าไหมคุณภาพจากทั่วประเทศ ซึ่งในปีนี้มีเกษตรกรมาร่วมออกร้านกว่า 200 ร้าน เช่น ผ้าไหมจากบริษัทจิมทอมป์สัน ผลิตภัณฑ์จากบริษัทจุลไหมไทย ร้านค้าจากกลุ่มเกษตรกรจากทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมสุดยอดผ้าไหมมาไว้ในงานนี้
งานตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ถือว่าเป็นงานที่แสดงผลงานด้านหม่อนไหมและจำหน่ายผ้าไหมที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี ซึ่งนอกจากจะสนับสนุนผลงานของเกษตรกรไทยเราแล้ว ยังช่วยให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นความสำคัญและมีความภาคภูมิใจในคุณค่าของเอกลักษณ์หม่อนไหมไทย และอนุรักษ์ภูมิปัญญาหม่อนไหมไทยต่อไป
จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าชมงาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557” ซึ่งจะจัดในระหว่างวันที่ 21 – 25 สิงหาคม 2557 เวลา 09.00 – 20.00 น. ทุกวัน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี สอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 0-2558-7924-6