กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ในเดือนกรกฎาคม ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้สรุปภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลว่า มีการเปิดตัวใหม่ลดลงเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 27 โครงการ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 7 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายลดลง -31% แต่มูลค่าโครงการกลับเพิ่มขึ้น 29% เนื่องจากมีสินค้าราคาสูงประเภทบ้านเดี่ยว และห้องชุดราคาแพงเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้ง 27 โครงการ มีจำนวนหน่วยที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด 6,425 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 28,795 ล้านบาท
ประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ ยังคงเป็นอาคารชุดอีกเช่นเดิม โดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 3,717 หน่วย (57.9%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 1,761 หน่วย (27.4%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 739 หน่วย (11.5%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบจำนวนหน่วยขายกับเดือนที่ผ่านมา จะพบว่าจำนวนหน่วยขายของที่อยู่อาศัยหลัก
สำหรับบ้านเดี่ยวจะตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่รอบนอก เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนพระราม 2 ถนนเพชรเกษม ถนนปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย เป็นต้น และทาวน์เฮ้าส์ส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ในเขตพื้นที่รอบนอกและเขตติดต่อเมือง เช่น ถนนสุขุมวิทสายเก่า ถนนกิ่งแก้ว ถนนพระราม 2 ถนนนวมินทร์ ถนนราชพฤกษ์ ถนนประชาอุทิศ ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ถนนกาญจนาภิเษก เป็นต้น ส่วนอาคารชุดจะเปิดขายในเขตกรุงเทพชั้นในและกรุงเทพชั้นกลาง โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว รวมถึงที่กำลังดำเนินการก่อสร้างเป็นหลัก เช่น ถนนเพชรเกษม ถนนสุขมวิท-แบริ่ง ถนนพหลโยธิน ถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนลาดพร้าว เป็นต้น
ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ส่วนใหญ่หากเป็นบ้านเดี่ยวจะเน้นที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ที่ราคา 1-2 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดจะเน้นที่ระดับราคา 1-2 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท เป็นสำคัญ และยังมีห้องชุดราคาแพงที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และริมแม่น้ำอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยสูงถึง 17% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 28% ต่อเดือน
จะสังเกตได้ว่าห้องชุดระดับราคา 10-20 ล้านบาท และ 20 ล้านบาทขึ้นไป เปิดใหม่เพี่ยง 244 และ 176 หน่วย หรือรวมกัน 420 หน่วยเท่านั้น แต่มีมูลค่ารวมกันถึง 4,412 และ 5,134 ล้านบาท หรือรวมกันถึง 9,546 ล้านบาท หรือ ประมาณ 33% ของมูลค่าเปิดใหม่ทั้งหมดของเดือนกรกฎาคมนี้เลยทีเดียว ดังนั้นจึงทำให้มูลค่าเปิดใหม่ถึง 66% เป็นห้องชุด นอกนั้นเป็นที่อยู่อาศัยแบบอื่น
บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีเปิดโครงการใหม่จำนวน 7 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์จำกัด (มหาชน) บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และมีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 1 บริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
อย่างไรก็ตามในเดือนมิถุนายนนี้ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้พบโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอเปิดขายใหม่ในอนาคตอีก 322 โครงการตามตารางที่ 3 โดยได้แสดงชื่อโครงการ และที่ตั้งโดยสังเขปไว้ ซึ่งความคืบหน้าจะได้นำเสนอต่อไป จะสังเกตได้ว่ามีโครงการหลายแห่งที่ได้ประกาศตัวหรือเปิดตัวทางหน้าหนังสือพิมพ์ อย่างไรก็ตามในการเปิดขายจริง (ที่มีโบรชัวร์และสำนักงานขายที่พร้อมต้อนรับผู้สนใจซื้อไปเยี่ยมชม) ยังไม่มี จึงถือเป็นโครงการที่ยังไม่เปิดตัวและเมื่อเปิดตัวจริงแล้ว จะได้ดำเนินการสำรวจต่อไป
อย่างไรก็ตาม ดร.โสภณ คาดการณ์ว่า สถานการณ์จะค่อย ๆ คลี่คลายในทางที่ดีขึ้นในช่วงหลังของปี 2557 และขณะนี้อยู่ในช่วงชะลอตัวซึ่งมักเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 2 และ 3 และจะเติบโตในไตรมาสที่ 4 แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจชองประเทศโดยรวมด้วย หากเศรษฐกิจดี อสังหาริมทรัพย์ก็จะดีตามนั่นเอง