กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--พีอาร์บูม
บมจ.สหการประมูลเผยตลาดรถยนต์มือสองมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องคาด 2 ไตรมาสสุดท้ายตลาดแข่งขันสูงมั่นใจเอ็นยูสเซอร์ดันยอดขายขยับ5-10%
บมจ.สหการประมูลเผยสถานการณ์รถยนต์มือสองในช่วง 6 เดือนแรกของปี 57 โตอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มลูกค้าเอ็นยูสเซอร์ตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสองเพิ่มขึ้น ชี้ราคาประหยัดกว่ารถใหม่ 40% มั่นใจหากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบตลาดในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายขยายตัว 5-10%
นายบูรณิศ ยุกตะนันทน์ หัวหน้าสำนักงานกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดรถยนต์มือสองในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ว่า จากการประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อของลูกค้า มั่นใจว่าสถานการณ์ตลาดน่าจะดีกว่าช่วง 2 ไตรมาสแรกอย่างแน่นอน เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นเอ็นยูสเซอร์เข้ามาเลือกซื้อรถยนต์มือสองมากขึ้น นอกจากนี้แล้วยังมีกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นผู้ประกอบการเข้ามาประมูลเพื่อไปจำหน่ายต่อมากขึ้น เพราะราคายังคงอยู่ในระดับที่น่าลงทุน ที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมามีรถยนต์ที่ถูกยึดจากไฟแนนซ์ต่าง ๆ ทยอยเข้ามาสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่มีสภาพดี เมื่อถูกนำไปขายหมุนเวียนอยู่ในตลาดรถมือสองจึงสามารถขายได้ในราคาที่ดีตามคุณภาพของสินค้า อย่างไรก็ตาม การแข่งขันของตลาดรถยนต์ก็ยังคงมีความรุนแรง ไม่ใช่เฉพาะรถยนต์มือสองที่มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนขึ้นเท่านั้น แต่ยังต้องแข่งขันกับตลาดรถยนต์ใหม่ที่คาดว่าจะออกแคมเปญดุเดือดในช่วงปลายปีเพื่อต้องการกระตุ้นยอดขายทั้งเรื่องดอกเบี้ยและขอแถมต่าง ๆ ทำให้ตลาดรถน่าจะแข่งขันกันสูงในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม แต่ไม่น่าจะกระทบกับตลาดรถยนต์มือสองมากนัก เพราะในช่วงไตรมาสสุดท้ายสถานการณ์รถมือสองน่าจะดีขึ้นแล้ว
นายบูรณิศเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตลาดรถยนต์มือสองปีนี้ไม่น่าจะขยายตัวมากนัก หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมาน่าจะโตประมาณ 10% เนื่องจากตลาดได้รับผลกระทบตั้งแต่ปี 2556 ทำให้ความต้องการซื้อชะลอตัวลง และกระทบต่อเต้นท์รถยนต์มือสองส่งผลให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กปิดตัวลงไปค่อนข้างมาก ทั้งนี้ ตลาดเริ่มทรงตัวและดีขึ้นตั้งแต่ช่วง 6 เดือนแรกของปี 57 และคาดว่า 2 ไตรมาสสุดท้ายนี้หากไม่มีปัจจัยลบกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศมากนักตลาดประมูลรถยนต์มือสองน่าจะขยายได้ประมาณ 5-10% อย่างไรก็ตาม จะต้องรอดูสถานการณ์ของตลาดในช่วงปี 2558 ด้วยว่าในปีรัฐบาลใหม่จะมีนโยบายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างไรบ้าง
“ข้อได้เปรียบของรถยนต์มือสองนั้นคือเรื่องราคาที่ถูกกว่ารถยนต์ใหม่ประมาณ 40% ในขณะที่สภาพของรถยนต์ประมาณ 90% ซึ่งมีคุณภาพใกล้เคียงกับรถใหม่แต่ราคาแตกต่างกันมาก ทำให้ประชาชนที่ต้องการประหยัดงบประมาณหันมาซื้อรถยนต์มือสองมากขึ้น เช่น รถยนต์ใหม่ราคา 1 ล้านบาท แต่สามารถซื้อรถมือสองในสภาพใกล้เคียงกันในราคาเพียง 6 แสนบาท ส่งผลให้ปัจจุบันนี้มีผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวเข้ามาประมูลซื้อมากขึ้น เห็นได้จากการประมูลทั้งในกรุงเทพฯ และการประมูลสัญจรทั่วประเทศ มีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อรถราคาประหยัดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดกลาง 1500-1800 ซีซี.เป็นสินค้ายอดนิยมของตลาดและขายดี ส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้อรถคันแรกและเพิ่งเริ่มต้นทำงาน สำหรับตลาดรถตั้งแต่ 2000 ซีซี.ขึ้นไปส่วนใหญ่เป็นรถระดับผู้บริหารที่ความต้องการซื้อไม่สูงมากนัก” นายบูรณิศกล่าว
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์โทรศัพท์ 02-934-7344