กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ขอแจ้งมติการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับกรณีกล่าวหาคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ว่ามีพฤติการณ์ทุจริตเกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่ 3 จี มีรายละเอียดดังนี้
เรื่องนี้ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องถอดถอนคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามมาตรา ๖๓ และเป็นกรณีมีผู้กล่าวหาจำนวนหลายราย ส่งเรื่องมาตามมาตรา ๘๔ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฯ ดังกล่าว กล่าวหา
๑.พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
๒. นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการโทรคมนาคม
๓. นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคม
๔. พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการกิจการโทรคมนาคม
โดยกล่าวหาว่า
1) ออกประกาศหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ ๓ จี เอื้อประโยชน์ให้กับผู้เข้าแข่งขันทั้ง ๓ ราย ทำให้ไม่มีการแข่งขันเสนอราคากันอย่างแท้จริงในการประมูล
2) บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด มีผู้จัดการเป็นคนต่างด้าว ขาดคุณสมบัติในการเข้าร่วมประมูล (๓ จี)
3) คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทค.) ไม่มีอำนาจจัดการประมูลคลื่น ๓ จี
4) ผู้เข้าประมูลทั้ง ๓ ราย มีการสมยอมกัน (ฮั้ว) ในการประมูลคลื่น ๓ จี
5) กทค. ทั้ง ๔ ราย ละเว้นไม่ดำเนินการยกเลิกการประมูลทั้งที่ทราบว่า การประมูล ผู้เข้าร่วมประมูลไม่มีการแข่งขันเสนอราคากันอย่างแท้จริง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่า
ข้อกล่าวหาที่ ๑ จากการไต่สวนพบว่า ขณะออกประกาศหลักเกณฑ์ มีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าประมูลได้จำนวน ๒๐ ราย การออกประกาศหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าวจึงมิได้เป็นการเอื้อให้กับผู้ประกอบการ ทั้ง ๓ ราย ที่เข้าประมูลในครั้งนี้ ตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ข้อกล่าวหาที่ ๒ จากการตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค มีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติไทยทั้งหมด จึงไม่ขาดคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาต ตามประกาศฯ จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาจึงไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ข้อกล่าวหาที่ ๓ จากการไต่สวนพบว่า การจัดประมูลคลื่น ๓ จี ของ กทค. ป็นการดำเนินการแทน กสทช. ตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ จึงเป็นการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ข้อกล่าวหาที่ ๔ จากการไต่สวนพบว่า การเสนอราคาของผู้เข้าประมูลทั้ง ๓ ราย เป็นไปโดยถูกต้องตามประกาศหลักเกณฑ์ฯ ไม่ปรากฏพฤติการณ์หรือพยานหลักฐานว่ามีการสมยอมกันในการเสนอราคา จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ข้อกล่าวหาที่ ๕ จากการไต่สวนพบว่า การประมูลครั้งนี้ ตามประกาศฯ ได้แบ่งคลื่นออกเป็น ๙ ชุด มีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวน ๓ ราย ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค จำกัด (AIS) บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด (DTAC) และบริษัท เรียลฟิวเจอร์ จำกัด (TRUE) นั้น เป็นดำเนินการประมูลตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่ กสทช. ประกาศกำหนด มิได้นำหลักการประมูลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย การพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-auction) มาใช้ ซึ่งเป็นไปตามหลักสากลเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค การประมูลก็มีการแข่งขันเสนอราคากันถึง ๗ รอบ ผลการประมูลได้ราคาสูงกว่าประเทศอื่นๆ ที่มีรายได้ต่อหัวใกล้เคียงกับประเทศไทย และได้รับการยอมรับจาก สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ซึ่งเป็นองค์กรของสหประชาชาติด้านโทรคมนาคม การประมูลครั้งนี้เป็นการพัฒนาระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยแบบ ก้าวกระโดด ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก กรณีนี้จึงไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง ๔ ราย ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป