กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธอส. โชว์ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 65,589 ล้านบาทปลื้มสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจคืนความสุขให้คนไทยประชาชนตอบรับล้นหลามยอดยื่นกู้สินเชื่อ ธอส.มีบ้านมีสุข เต็มวงเงิน 5,000 ล้านบาทแล้ว!!!
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แจงผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2557 เทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อน ยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ทั้งสิ้น 65,589 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.75% ขณะที่สินเชื่อรับนโยบายคืนความสุขกระแสตอบรับอย่างต่อเนื่อง โครงการสินเชื่อ ธอส. มีบ้าน มีสุข ยอดยื่นกู้เต็มวงเงิน 5,000 ล้านบาทแล้ว ส่วนโครงการสินเชื่อบ้าน ธอส. เพิ่มสุข ยอดยื่นกู้ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2557 ยอดยื่นกู้ 1,069 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้า 134,000 ล้านบาท เนื่องสภาวะเศรษฐกิจและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)เปิดเผยถึงผลการดำเนิน ครึ่งปีแรกของปี 2557 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนว่า ธนาคารยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งแม้สภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกชะลอตัว โดย 6 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อปล่อยใหม่ได้ทั้งสิ้น 65,589 ล้านบาท เพิ่มขึ้น13.75%
ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2557 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2556 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 762,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.51% สินทรัพย์รวม 814,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.33% เงินฝากรวม 646,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.70% ทรัพย์สินรอการขาย (NPA) สุทธิคงเหลือจำนวน 1,593 ล้านบาท ลดลง 4.18% อย่างไรก็ตามธนาคารสามารถบริหารจัดการให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เหลือจำนวน 47,868 ล้านบาท คิดเป็น 6.28% ของยอดสินเชื่อรวม ซึ่งเป็นอัตราส่วน NPL ที่ลดลงจากไตรมาสแรก และมีกำไรสุทธิ จำนวน 4,672 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS Ratio) อยู่ที่ระดับแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นที่ 17.08% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
ขณะเดียวกันธนาคารยังคงขานรับนโยบาย คสช.ในการคืนความสุขให้คนไทยอย่างต่อเนื่อง จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นโครงการสินเชื่อบ้าน ธอส. เพิ่มสุข กรอบวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าเดิม ที่มีประวัติการผ่อนชำระดีสม่ำเสมอมาอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 36 เดือน จะได้รับสิทธิ์กู้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 3.99% ต่อปี ซึ่งเปิดรับคำขอกู้มาตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557 โดยล่าสุด ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2557 มีผู้ติดต่อขอยื่นกู้แล้วจำนวน 3,530 บัญชี วงเงินรวม 901 ล้านบาท สำหรับ โครงการสินเชื่อ ธอส. มีบ้าน มีสุข อัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษคงที่ 3.50% ต่อปี นาน 2 ปีแรก กรอบวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งเปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2557 ปัจจุบันยอดยื่นกู้เต็มวงเงิน 5,000 ล้านบาท แล้ว นับว่าได้เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่โดนใจสามารถสร้างความสุขให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น และสามารถแบ่งเบาภาระหนี้ด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนได้
“จากผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมาย อีกทั้งปัจจุบันดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าครึ่งปีหลังธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย 134,000 ล้านบาท สำหรับแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง ธอส.จะยังคงมุ่งมั่นคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งทางด้านสินเชื่อและเงินฝาก เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายต่อไป รวมถึงพัฒนาคุณภาพการให้บริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ขยายเพิ่มช่องทางการให้บริการลูกค้าครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ” นางอังคณากล่าว
นางอังคณา กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากการดำเนินธุรกิจแล้ว ธอส. ยังคงให้ความสำคัญกับนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม(CSR) โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “บ-ว-ร” หรือ การพัฒนา “บ้าน-วัด-โรงเรียน” ซึ่งถือเป็น 3 เสาหลักระดับชุมชนที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม โดยดำเนินการไปแล้วในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด อาทิ อยุธยา ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ น่าน ปทุมธานี นครราชสีมา ชลบุรี เชียงใหม่ สงขลา และเชียงราย โดยตั้งแต่ปี 2553 ธอส.สามารถช่วยเหลือ สร้าง-ซ่อมแซมบ้านให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ รวมกว่า 1,700 หลัง ขณะที่การสนับสนุนด้านการกีฬาและการศึกษาของธนาคารก็ยังประสบความสำเร็จต่อเนื่อง ล่าสุด วงโยธวาทิตโรงเรียนสุรนารีวิทยา จังหวัดนครราชสีมา ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ธอส.เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันวงโยธวาธิตนานาชาติ ณ ประเทศสิงคโปร์ ในรายการ Singapore International Band Festival 2014 ประเภทนั่งบรรเลง ยังสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในระดับดิวิชั่น 2 (ระดับมัธยม) นำความภาคภูมิใจกลับมาคืนความสุขให้คนไทยทั้งประเทศได้อีกด้วย