กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--แฟรนคอม เอเชีย
ความชำนาญกับรูปแบบ
ณ แอร์เมส เวลาจะก้าวเคลื่อนผ่านไปช้าๆ ตามจังหวะมือของเหล่าศิลปินช่างฝีมือที่บรรจงประดิดประดอยงานแต่ละชิ้นของพวกเขาอย่างละเมียดละไม ผลงานสุดล้ำค่าอันเป็นที่หมายตาของพวกเขาหลอมรวมเข้ากันจนกลายเป็นชิ้นงานอันยอดเยี่ยม และอาร์โซ ลิฟท์ เชอโวซ์ ออง คามูฟลาจ ก็เป็นหนึ่งในนั้น มีให้เลือก 2 สี ผลิตขึ้นจำนวนจำกัดเพียงสีละ 8 เรือนเท่านั้น และเป็นชิ้นงานที่ผสมผสานเครื่องฟลายอิ้ง ทูร์บิญอง ที่แอร์เมสผลิตขึ้นเอง เข้ากับศิลปะการลงยาในแบบครัวซ์ซอนเน่ (Cloisonné) เผยให้เห็นภาพลายอันได้รับแรงบันดาลใจจากผ้าพันคอแอร์เมส นั่นคือ ลายพรางรูปฝูงม้า
การลงยาคือขั้นตอนงานฝีมือที่พิถีพิถันและต้องใช้ความวิริยะเป็นอย่างมาก
ช่างฝีมือจะเริ่มร่างภาพบนกระดาษ ให้เป็นเค้าโครงรูปม้า ซึ่งจะใช้เป็นฐานของการลงเส้นทองคำ หน้าปัดที่ทำจากทองคำเปรียบได้ดั่งผืนผ้าใบของช่างลงยา จะถูกบรรจงวางเส้นทองคำลงไปตามแนวเส้นที่วาดไว้อย่างพิถีพิถัน เพื่อกำหนดเป็นพื้นที่สำหรับการลงยา
และเช่นเดียวกับจิตรกรคนอื่นๆ ช่างจะเตรียมจานสี พร้อมโทนสีที่ใกล้เคียงกันของสีน้ำเงินและน้ำตาลแล้วแต่รุ่นของนาฬิกา หลังจากนั้นจึงใช้ปลายพู่กันค่อยๆ แต้มสีลงไปเบาๆ เพื่อให้ภาพมีแสงเงาและดูมีมิติ ก่อนที่จะนำไปเผาด้วยความร้อนที่สูงถึง 800 องศาเซลเซียส สีและลวดลายต่างๆจะค่อยๆเผยความงดงามออกมา ประดุจการชุบชีวิตให้กับเหล่าอาชาที่กำลังห้อทะยาน ล้อมกรอบอยู่ในตัวเรือนทองคำขาวหรือโรสโกลด์
ผลงานศิลป์ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการของแก้ว ทองคำ และไฟ โดดเด่นอยู่เหนือผลงานอันน่าประทับใจอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งคราวนี้เป็นเรื่องของกลไก นั่นคือ เครื่องฟลายอิ้ง ทูร์บิญอง H1923 ของแอร์เมส ที่หมุนอย่างอิสระอยู่ภายในกรง ที่มีอักษร H สองตัวประกบอยู่ด้านบน ลักษณะเดียวกับที่ตกแต่งอยู่เหนือลิฟท์ของบูติคประวัติศาสตร์ของแอร์เมส ณ เลขที่ 24 โฟบูรก์ แซงค์ ออนอเร่ ในกรุงปารีส
ด้วยการผสานความชำนาญอันโดดเด่นของฝีมือช่าง อาร์โซ ลิฟท์ เชอโว ออง คามูฟลาจ เกิดขึ้นจากการผสมผสานศาสตร์แห่งการรังสรรค์เครื่องบอกเวลาอันทรงเกียรติและเทคนิคการลงยาแบบครัวซ์ซอนเน่ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเป็นแอร์เมส เรือนเวลานี้จึงลงตัวอย่างเหมาะเจาะอย่างที่คาดหวัง กับสายหนังที่เดินเส้นตามแบบการเย็บอานม้าอันประณีต