กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับโลกอีกครั้ง หลังทีเส็บประสบความสำเร็จในการดึง “ยูนิซิตี้” เครือข่ายการตลาดระดับโลก นำนักธุรกิจอิสระกว่า 50,000 คนร่วมงานประชุมประจำปี “2014 Unicity Global Convention” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี พิสูจน์ศักยภาพของไทยศูนย์กลางการจัดงานไมซ์ระดับภูมิภาค พร้อมเป็นโชว์เคสสร้างความเชื่อมั่นแก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั่วโลก มั่นใจจำนวนผู้ร่วมประชุมช่วยกระตุ้นรายได้ไมซ์ไตรมาสสุดท้ายของปีตามเป้า
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ทีเส็บได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมประเทศไทยในฐานะที่เป็นศูนย์กลาง การจัดงานไมซ์ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ต้องเร่งเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้วยการสื่อสารศักยภาพของประเทศ ในด้านการเป็นจุดหมายปลายทางที่มีความหลายหลาย การเป็นศูนย์กลางของการดำเนินธุรกิจและศักยภาพ ของบุคลากรและการให้บริการที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นในเสาหลักของการสื่อสารประเทศไทยภายใต้แคมเปญ THAILAND CONNECT
สำหรับกลยุทธ์การสร้างความเชื่อมั่นให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทยที่สำคัญอีกประการคือ “การดึงงานไมซ์ขนาดใหญ่ หรืองานระดับเมกกะอีเวนต์” เข้ามาจัดในประเทศ โดยการที่ประเทศไทยสามารถดึงงานและได้เป็นเจ้าภาพ การจัดงานระดับนานาชาติหลายงานตั้งแต่ปลายปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นจากผู้จัดงานนานาชาติ ที่ตระหนักถึงสภาวการณ์ที่เป็นปกติของประเทศ ผนวกกับศักยภาพและความพร้อมในการจัดงานไมซ์ทุกรูปแบบของไทย ซึ่งใน ไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2557 นี้ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นนักเดินทางกลุ่มไมซ์ เข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 157,930 คน
“การประชุม “2014 Unicity Global Convention” นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของทีเส็บที่สามารถดึง งานประชุมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพ เนื่องจากจะมีผู้ร่วมงานกว่า 50,000 คน จำนวน 20,000 คนจาก 23 ประเทศ และผู้เข้าร่วมงานจากประเทศไทยจำนวน 30,000 คน โดยทีเส็บ ได้การให้การสนับสนุนทั้งในด้านการเงิน อาทิ การสนับสนุนค่าเช่าสถานที่จัดงานประชุม สนับสนุนการประชาสัมพันธ์การจัดงาน และการอำนวยความสะดวกแก่ทางยูนิซิตี้เพื่อให้เข้ามาจัดงาน ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการสนับสนุนผ่านโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาด Mega Event สำหรับกลุ่มการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล โดยเราประมาณการรายได้ที่จะเกิดขึ้นจาก
การเข้าร่วมประชุมนี้คิดเป็นรายได้กว่า 1,780 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นธุรกิจไมซ์ในประเทศไทย และดึงดูดนักเดินทางกลุ่มไมซ์เข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย
ด้าน มร. คริสโตเฟอร์ คิม ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยูนิซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ กล่าวว่า ยูนิซิตี้เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และการพัฒนาธุรกิจสำหรับสมาชิกเครือข่าย โดยมีการดำเนินธุรกิจในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
“ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลาดหนึ่งของเรา และมีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดด
สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทย ที่จะเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของเราในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบกับการสนับสนุนจากทีเส็บ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันของประเทศไทย เราจึงได้เลือกใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมประจำปีระดับโลกของยูนิซิตี้ในปีนี้” มร. คิม กล่าว
ยูนิซิตี้ ได้เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2545 และในปัจจุบันได้ขยายเครือข่ายนักธุรกิจอิสระ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง การที่ประเทศไทยตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน จึงมีศักภาพที่จะเป็นศูนย์กลาง ของภูมิภาค ซึ่งสนับสนุนการขยายธุรกิจของยูนิซิตี้ในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม พม่า กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เป็นต้น “ยูนิซิตี้ ไม่ได้มองพียงแค่มิติด้านธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ การสร้างโอกาสในการ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ดียิ่งขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2558 ที่จะก้าวเข้าสู่ AEC ซึ่งจะเป็นการฉีกเส้นแบ่งพรมแดนครั้งสำคัญ และนั่นหมายถึงการที่ยูนิซิตี้จะได้เข้าไปมีส่วนในการสร้างแรง บัลดาลใจให้แก่ผู้คนอีกจำนวนมาก เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นด้วยการร่วมเคียงข้างไปกับเรา เราหวังว่าการจัดการประชุมระดับโลกของยูนิซิตี้ในประเทศไทยครั้งนี้ จะทำให้ยูนิซิตี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่มีคุณภาพกว่าเดิม ทั้งสำหรับสมาชิก ยูนิซิตี้เองและคนทั่วไป เรายินดีที่ได้มีส่วนส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจไทยในขณะที่ประเทศไทยกำลังต้องการการสนับสนุนเพื่อก้าวสู่มิติใหม่ เราเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของประเทศไทยและเราจะเป็น ส่วนหนึ่งของการสร้างความสำเร็จให้แก่ประเทศไทยด้วย” มร. คิมกล่าวสรุป
สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของต่อเนื่องถึงปีหน้า ประเทศไทยยังมีโอกาสต้อนรับการจัดงานไมซ์ระดับโลกอีกเป็นจำนวนมากซึ่งรวมถึงงานด้านการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล เช่น งานเทรดโชว์ IT&CMA ASIA และ CTW Asia-Pacific Corporate Travel World 2014 งานประชุมนานาชาติ เช่น งาน 74th FIP World Congress of Pharmacy and Pharmaceutical Sciences 2014 งาน ONE YOUNG WORLD SUMMIT BANGKOK 2015 ตลอดจนงานแสดงสินค้านานาชาติ เช่น งาน Food & Hotel Thailand 2014 งาน INTERMACH 2015 งาน ProPak Asia 2015 งาน VIV ASIA 2015 รวมทั้งงานระดับเมกกะอีเวนต์อย่าง HARMONY WORLD PUPPET CARNIVAL BANGKOK 2014 โดยคาดว่าสิ้นสุดปีงบประมาณ 2557 ประเทศไทยจะมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์กว่า 888,210 คน และสร้างรายได้กว่า 87,200 ล้านบาทให้แก่เศรษฐกิจไทย