กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน แสตรทิจีส์
บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทความงามอันดับสองของประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจความงามระดับโลก ด้วยอัตราการเติบโตในตลาดกลุ่มสกินแคร์สำหรับผิวหน้าของไทยที่สูงกว่าตลาดถึง 3 เท่าในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้ตำแหน่งผู้นำในตลาดนี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมตั้งเป้ารุกตลาดเมคอัพเต็มอัตรา
ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (สกินแคร์) ของประเทศไทย นับเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศกลุ่มอาเซียน มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 35,752 ล้านบาท(1) โดยในตลาดแมสซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของไทยนั้น สกินแคร์สำหรับผิวหน้ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 68 ของตลาดสกินแคร์รวม(2) มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4 และเป็นตลาดที่สะท้อนความไว้วางใจของผู้บริโภค โดยลอรีอัลครองความเป็นผู้นำอยู่ด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 12 ในช่วงครึ่งปีแรก(2)
นอกจากนี้ ตลาดเครื่องสำอาง (เมคอัพ) ของประเทศไทย ยังเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศกลุ่มอาเซียน ด้วยมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 12,393 ล้านบาท(1) โดยในตลาดแมส ธุรกิจเมคอัพมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 16 ของตลาดผลิตภัณฑ์ความงามรวม และมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 7 ขณะที่ลอรีอัล ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ +11 ในช่วงครึ่งปีแรก และเป็นผู้นำในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่วางขายผ่านร้านค้าในกลุ่มโมเดิร์นเทรด(2)
มร.อูเมช ฟัดเค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ลอรีอัล ประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป็นบริษัทความงามที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในประเทศ(3) เราเป็นผู้นำตลาด
สกินแคร์สำหรับผิวหน้าซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูงและต้องการนวัตกรรมที่ดีที่สุดเสมอ การที่เราได้เป็นผู้นำในตลาดนี้นับเป็นความภูมิใจและสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของเรา”
และเพื่อเสริมความเป็นผู้นำตลาดสกินแคร์และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจเมคอัพยิ่งขึ้น ลอรีอัล ประเทศไทยจึงจะมุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ สร้างเครือข่ายการกระจายสินค้าให้กว้างขวางยิ่งขึ้น สร้างแคมเปญการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ สร้างความประทับใจในบริการทุกจุดขาย พร้อมเปิดตัว 3 แบรนด์ใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมทัพ คือ คัลเลอร์ โชว์ (ColorShow) คลาริโซนิค (Clarisonic) และเออเบิน ดีเคย์ (Urban Decay)
“คัลเลอร์ โชว์ (ColorShow)” แบรนด์ที่แตกไลน์ออกมากจากเมย์เบลลีน นิวยอร์ก เพื่อมอบความหลากหลายและที่สุดของสีสัน ในราคาย่อมเยา ให้กับผู้ที่หลงใหลในสีสันและผู้ที่เริ่มแต่งหน้า ให้ตื่นตาตื่นใจกับสีสันมากมายที่ผสมเป็นเฉดสีใหม่ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในคุณภาพระดับแบรนด์เมคอัพอันดับหนึ่งของโลก
“คลาริโซนิค (Clarisonic)” แบรนด์อุปกรณ์ดูแลผิวหน้าอันดับหนึ่งจากสหรัฐอเมริกา การันตีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีกว่ามือเปล่าถึง 6 เท่า ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกในไทยที่เซโฟร่า สยาม เซ็นเตอร์ เมื่อต้นสิงหาคมที่ผ่านมา
“เออเบิน ดีเคย์ (Urban Decay)” แบรนด์เมคอัพสุดชิคจากสหรัฐอเมริกา ที่ครองอันดับหนึ่งของแบรนด์เมคอัพยอดนิยมในเซโฟร่าในทุกทวีปต่างๆรอบโลก ซึ่งจะเปิดตัวที่ประเทศไทยในเดือนกันยายนนี้
นอกจากนี้ ลอรีอัล ยังได้ปรับ ‘ลอรีอัล ปารีส เมคอัพ’ เป็น ‘ลอรีอัล เมคอัพ ดีไซเนอร์ (L’ORÉAL Make Up Designer)’ โดยวางกลยุทธ์ให้เป็นแบรนด์แห่งแรงบันดาลใจของทีมเมคอัพดีไซเนอร์ระดับสากล ทำให้ ‘ลอรีอัล เมคอัพ ดีไซเนอร์’ เป็นแบรนด์แห่งเมคอัพดีไซเนอร์ (designer make up brand) เพียงแบรนด์เดียวในตลาดพรีเมี่ยมแมส (premium mass market)
“คนไทยเป็นคนรักสวยรักงาม มีความงามเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเสมอ เห็นได้จากวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมและการแสดงออกถึงอัตลักษณ์ความเป็นตัวตน ซึ่งพื้นฐานความต้องการนี้ช่วยเสริมสร้างการเติบโตให้แก่ตลาด และสร้างโอกาสมากมายให้แก่ธุรกิจความงามในอนาคต สำหรับลอรีอัลแล้ว การเสริมทัพด้วยแบรนด์ใหม่ๆ ด้วยนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง ด้วยการสื่อสารอันมีประสิทธิภาพ ด้วยการเติบโตของช่องทางการจัดจำหน่าย-กระจายสินค้า และด้วยคุณภาพในการบริการ เรามั่นใจว่าจะสามารถครองความเป็นผู้นำในตลาด
สกินแคร์และยกระดับความสำเร็จของเราในตลาดเมคอัพขึ้นไปอีกขั้น”
“ธุรกิจของเราดำเนินงานภายใต้พันธกิจ ‘แบ่งปันความงามให้ทุกสรรพสิ่ง’ (Beauty for All) ที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการด้านความงาม ความปรารถนาที่หลากหลาย และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของผู้บริโภค นั่นคือเหตุผลที่เรานำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย หรือพูดง่ายๆ ว่า เรามีผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน”
“ด้วยความมุ่งมั่นของบริษัท ลอรีอัล สำนักงานใหญ่ ที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคหน้าใหม่ 1 พันล้านคนทั่วโลก ประเทศไทยในฐานะตลาดความงามที่ใหญ่ที่สุดของประเทศกลุ่มอาเซียน จึงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันองค์กรให้ถึงเป้าหมาย เราต้องการเป็นบริษัทความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเข้าถึงผู้บริโภคทุกคนในอนาคต” มร.อูเมช ฟัดค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวสรุป