กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--hukder company
ปิดงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี ยอดจองบ้านใหม่และบ้านมือสอง 4 วันทะลุ 3,376 ล้านบาท เฉพาะบ้านใหม่สูงกว่าปีก่อนถึง 24% คอนโดฯเกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาแรง ส่วนยอดขอสินเชื่อบ้านใหม่สูงเฉียด 2 หมื่นล้าน สะท้อนความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคฟื้น ชี้พฤติกรรมคนซื้อบ้านเปลี่ยน ศึกษาเส้นทางรถไฟฟ้า ผังเมือง สอบถามกูรูเพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจซื้อ แถมพบ ปรากฏการณ์ใหม่ นักลงทุนรายย่อยเข้ามาช็อปคอนโดฯ-ที่ดินเปล่าเพื่อลงทุนมากขึ้น
นายบริสุทธิ์ กาสินพิลา กรรมการผู้จัดการ บริษัทโฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของการจัดงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี “NPA & Resale Home 2014” มหกรรมอสังหาริมทรัพย์และบ้านมือสอง “Home Loan & Consumer Credit 2014” มหกรรมสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล และ Home Buyers’ Expo 2014” ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ผลการจัดงานครั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งในด้านของจำนวนผู้เข้าร่วมชมงานและจำนวนยอดขาย โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมชมงานมากถึง 80,000 คน ส่วนยอดขายทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสองในช่วง 4 วันและยอดคาดหวังหลังงานประมาณ 3,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ทำยอดขายได้รวม 3,293 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดขายของบ้านใหม่กว่า 2,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 1,789 ล้านบาท
ส่วนตัวเลขการยื่นขอสินเชื่อบ้านใหม่จาก 6 สถาบันการเงินในปีนี้ถือว่าสูงเกินกว่าเป้าที่วางไว้ โดยมีการยื่นขอสินเชื่อบ้านใหม่ทั้งหมด 18,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากปีที่ก่อนที่มียอดขอสินเชื่อรวม 11,783 ล้านบาท
สะท้อนให้เห็นว่าความมั่นใจของผู้บริโภคในการซื้อที่อยู่อาศัยเริ่มฟื้นตัวแล้ว หลังจากบรรยากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย และคาดว่าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้จนถึงปีหน้าหลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ได้รับการแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว
"งานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี ถือเป็นงานขายอสังหาฯงานแรกของปีนี้หลังจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองยุติ และเปิดงานวันแรกพร้อมกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย จึงทำให้บรรยากาศของการซื้อขายบ้านและคอนโดฯคึกคักอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่กำลังซื้อส่วนใหญ่ถูกอั้นมานาน เพราะไม่มั่นใจกับการเมืองที่เกรงว่าจะยืดเยื้อและบานปลาย รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่เมื่อปัญหาต่างๆเริ่มคลี่คลายคนซื้อบ้านที่มีความพร้อมและต้องการอยู่อาศัยจริงก็ออกมาจับจองซื้อทั้งบ้านแนวราบและคอนโดฯมากขึ้น”
สำหรับสินค้าที่ได้รับความสนใจมากได้แก่ คอนโดมิเนียมระดับราคา 1-2 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ทาวน์เฮ้าส์ราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป และบ้านเดี่ยวประมาณ 3-5 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่เกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ อาทิ โครงการแมนฮัทตัน พาร์ค เรสซิเด้นซ์ ย่านแบริ่ง ซึ่งเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ราคาเริ่มต้น 1 ล้านกว่าบาทของกลุ่มยูโร-ไทย พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง สามารถทำยอดขายได้ถึง 196 ยูนิต โครงการไนท์ บริด ของ กล่มออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มียอดจองกว่า 20 ยูนิต รวมถึงโครงการของกลุ่มเจ้าพระยามหานคร ที่ได้นำห้องชุดหลายทำเลมาเปิดขายราคาพิเศษก็ได้รับความสนใจมากจนมียอดจองกว่า 50 ยูนิต
นอกเหนือจากบรรยากาศของการซื้อขายที่คึกคักแล้ว ในด้านของโซน Smart Buyers ซึ่งได้มีการจัดนิทรรศการแสดงโครงข่ายรถไฟฟ้า ผังเมือง เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 10 สายได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ชมงานเข้ามาสอบถามถึงรายละเอียดและความคืบหน้าของโครงการเป็นจำนวนมาก รวมถึงการรับฟังข้อมูลจากกูรูที่มาให้ความรู้ทั้งด้านการกู้เงิน การประเมินราคา การเลือกซื้อบ้านอย่างชาญฉลาด การเลือกซื้อบ้านมือสอง และฮวงจุ้ย เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อโครงการภายในงานและหลังจากงาน ซึ่งจากการเก็บรวบรวมข้อมูลกลุ่มผู้ชมงานในปีนี้ พบว่า มีกลุ่มนักลงทุนอสังหาฯรายย่อยเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่อายุเฉลี่ยประมาณ 30 ปีต้นๆ ซึ่งถือว่าเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่พบเห็นกันไม่บ่อยนัก เพราะที่ผ่านมานักลงทุนกลุ่มนี้มักจะไปเลือกซื้ออสังหาฯที่โครงการมากกว่าจะมาเดินเลือกซื้อในงานมหกรรม โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นคอนโดมิเนียมและที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ของธนาคาร