กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
“แดรี่ พลัส” ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ชูดีน่างาดำคุณประโยชน์ยิ่งขึ้น เผย 4 สารต้านอนุมูลอิสระเจาะตลาดกลุ่มเสริมคุณค่า ตอบโจทย์คนยุคใหม่รักสวยรักสุขภาพ อัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง ยึดเบอร์ 2 ตลาด รักษาส่วนแบ่ง 25.7%
ตลาดนมถั่วเหลืองยังร้อนแรงไม่หยุด เมื่อเบอร์ 2 ตลาดนมถั่วเหลืองดีน่า ที่เคยชูจุดขายมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเทียบเท่ามะเขือเทศ 6 ลูก เป็นเจ้าแรกของตลาดไปแล้ว กลับมาคราวนี้ “ดีน่างาดำ” จึงได้ตอกย้ำผู้นำตลาดมุ่งโฟกัสกลุ่มเป้าหมายคนยุคใหม่ที่ต้องเจอกับอนุมูลอิสระบั่นทอนความอ่อนเยาว์และสุขภาพ ด้วยการเพิ่มคุณประโยชน์ ชู 4 สารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยใช้พรีเซ็นเตอร์นางเอกสาวสุดฮอต “ชมพู่-อารยา เอฮาร์เก็ต” เพื่อจับกลุ่มผู้หญิง 25-35 ปี ที่ใส่ใจดูแลตัวเอง และต้องการดื่มนมถั่วเหลืองเสริมคุณค่าเพื่อดูแลสุขภาพที่ดีจากภายใน
โดยล่าสุด บริษัท แดรี่ พลัส จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมอันดับ 1 นำโดย สุพัชรมณี ศรีวลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัท ดัชมิลด์ จำกัด ได้เปิดเผยในงาน “ล็อกความอ่อนเยาว์ กับดีน่างาดำ” ที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้คนไทยหันมาดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้ดูอ่อนเยาว์สดใสทั้งผิวพรรณและร่างกายว่า “จากมูลค่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มของปีนี้ 55,508 ล้านบาท (รวมทุกผลิตภัณฑ์ทั้งนมวัว นมถั่วเหลือง นมเปรี้ยว นมผสมมอลต์ ที่เป็นยูเอชทีพาสเจอร์ไรส์และสเตอริไลซ์) มีการเติบโต 3% เทียบจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมูลค่าตลาดนมถั่วเหลือง (ยูเอชที พาสเจอร์ไรส์และสเตอริไลซ์) มีประมาณ 14,625 ล้านบาท เติบโต 7% จากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การแข่งขันสูงมากเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของตนเอง โดยมีแบรนด์หลักๆ คือ ดีน่า แลคตาซอยและไวตามิลค์ ที่มีการจัดกิจกรรมการตลาดทั้ง above-the-line และ below-the-line อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ตลาดนมถั่วเหลืองยูเอชที จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ Regular หรือนมถั่วเหลืองทั่วไป, Value Added หรือนมถั่วเหลืองเสริมคุณค่า และสุดท้าย Kid นมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก จากข้อมูลล่าสุดพบว่ามูลค่ารวมของนมถั่วเหลืองทั้ง 3 กลุ่ม อยู่ที่ 12,575 ล้านบาท โดยกลุ่มของนมถั่วเหลืองทั่วไปมีส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุด คือ 55% รองลงมา ได้แก่นมถั่วเหลืองเสริมคุณค่า 38% และสุดท้ายคือนมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก 7% ซึ่งนมถั่วเหลืองทั่วไปและนมถั่วเหลืองเสริมคุณค่ามีการเติบโตจากปีก่อนเพิ่มขึ้นเท่ากันที่ 7% แต่สำหรับกลุ่มเด็กลดลง 6%
สำหรับดีน่ามีส่วนแบ่งตลาดนมถั่วเหลืองยูเอชที 25.7% มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 2 ในตลาด (แลคตาซอยมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดอยู่ที่ 55.3% และไวตามิลค์ มีสัดส่วนเป็นอันดับ 3 อยู่ที่ 18.2%) โดยปัจจุบันดีน่างาดำเป็นผู้นำของกลุ่มนมถั่วเหลืองเสริมคุณค่าพิเศษ (Value Added) เพราะได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคหลังจากเปิดตัวหนังโฆษณาที่มีดาราสาว ชมพู่ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะผู้บริโภคสนใจการดูแลสุขภาพมากขึ้น
ด้านกลยุทธ์และแผนการตลาดช่วงครึ่งปีหลังของดีน่างาดำ ยังคงเน้นตอกย้ำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ในเรื่องของการมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเทียบเท่ามะเขือเทศ 6 ลูก โดยสารต้านอนุมูลอิสระนี้จะทำให้คงความอ่อนเยาว์ทั้งผิวพรรณและร่างกาย สื่อสารผ่านกิจกรรมการตลาด โฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์มีเดีย ควบคู่กับออกโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย โดยเน้นความต่างด้วยคุณประโยชน์จาก 4 สารต้านอนุมูอิสระคือ เซซามีน วิตามินเอ ซี และอี อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญ ทั้งแคลเซียม วิตามินรวม 13 ชนิด ที่มาพร้อมกับรสชาติอร่อยเฉพาะตัว หอมกลิ่นงาดำให้ผู้บริโภคหันมาดูแลตนเองให้ดี เพื่อคงความอ่อนเยาว์และมีสุขภาพแข็งแรงสดใส