กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ทีเอ็มบี
ทีเอ็มบี ธนาคารแห่งแรกที่จับมือกับบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (The International Finance Corporation หรือ ไอเอฟซี) องค์กรในกลุ่มธนาคารโลก ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ในความร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่มีศักยภาพ ย้ำขานรับความต้องการทางธุรกิจของเอสเอ็มอีเพื่อให้เดินหน้าเติบโตต่อ หลังสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น
นายปพนธ์ มังคละธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอสเอ็มอีและซัพพลายเชน ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ทีเอ็มบียังคงเน้นให้ความสำคัญในการให้ความสนับสนุนทางการเงินและการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในฐานะสถาบันการเงินที่มีส่วนในการพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้น ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเริ่มกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเดินหน้าวางแผน เตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจของตน ทีเอ็มบีจึงได้จับมือกับไอเอฟซี ทำบันทึกความเข้าใจ ในการร่วมมือเพื่อค้ำประกันความเสี่ยงของลูกค้า เพิ่มเติมจากเดิมที่มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้ค้ำประกันอยู่แล้ว ในขณะที่ทีเอ็มบีจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นกับทางไอเอฟซีทั้งหมด โดยลูกค้าจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ด้วยวงเงินรวมทั้งสิ้น 262 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8 พันล้านบาท สำหรับเสริมสภาพคล่องและเพื่อการขยายธุรกิจ ซึ่งหากมองในมุมลูกค้าจะเป็นโอกาสที่ดีมากเพราะจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และเมื่อรวมกับผลจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเอสเอ็มอีจากภาครัฐแล้ว ก็เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ประกอบการจะสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างคล่องตัวและมั่นใจ
นายปพนธ์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า เอสเอ็มอีเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย ดังนั้น การเร่งส่งเสริมผู้ประกอบการจะต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นแนวทางที่ทีเอ็มบียึดถือตลอดมา ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างทีเอ็มบีกับไอเอฟซี ครั้งนี้ จึงเป็นความร่วมมือที่สำคัญและเกิดขึ้นในจังหวะเวลาที่เหมาะสมพอดี
ทีเอ็มบีและไอเอฟซีได้มีความร่วมมือในโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาตั้งแต่ ปี 2554 เป็นการร่วมมือกันฟื้นฟูธุรกิจเอสเอ็มอีหลังน้ำท่วมใหญ่ ในโครงการเงินกู้ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,550 ล้านบาทไทย ต่อมาในปี 2555 ได้ทำความตกลงกันปล่อยสินเชื่อระยะยาวสกุลดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นผู้ส่งออก ในวงเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ และในปี 2556 ได้ร่วมป้องกันความเสี่ยงสำหรับผู้นำเข้า – ส่งออก สนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) โดยการเข้าร่วมในโครงการ Global Trade Finance Program (GTFP) และทีเอ็มบีเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่เข้าร่วมโครงการนี้