กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,286 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,287 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 31.97 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,400 บาท กับ 19,500 บาท และกลับมาปิดที่ 19,450บาท กับ19,550 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 223 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 2,016 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.13% แบบ 10 บาท ลดลง 1.95% GFV14 ปิด 19,630 บาท และ GFZ14 ปิด 19,700 บาท GF10V14 ปิดที่19,650 บาท GF10Z14 ปิดที่ 19,700 บาท
ปิดทำการเนื่องในวันแรงสหรัฐฯ
ข่าวที่สำคัญ
ตลาดทองคำเคลื่อนไหวอย่างเบาบาง เนื่องจากตลาด COMEX ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ (Labor Day)
ทองคำยังคงขาดปัจจัยสนับสนุนจากความตึงเครียดในยูเครน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าจึงกดดันราคาทองคำให้ลดความน่าดึงดูดใจ
นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า การคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียอาจจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ ซึ่งทางอียูให้กำหนดเวลากับรัสเซีย 1 สัปดาห์ในการแก้ไขปัญหาในยูเครน ซึ่งหากรัสเซียล้มเหลวในการจัดการกับปัญหา อียูจะดำเนินการใช้มาตการคว่ำบาตรที่เข้มงวดมากขึ้นกับรัสเซียทันที
นักลงทุนให้ความสำคัญไปยังการประชุมอีซีบีในวันพฤหัสบดีนี้ และตัวเลขการจ้างงานที่จะประกาศในคืนวันศุกร์ รวมถึงความตึงเครียดในยูเครน เพราะน่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำได้
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ถึงแม้ว่าสหรัฐฯจะอยู่ท่ามกลางวิกฤตการณ์นานาประเทศ แต่สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ยังสามารถฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะภาคแรงงานที่ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอัตราคนว่างงานสหรัฐฯประจำเดือน ก.ค. ก็ลดลงไปสู่ระดับ 6.2%
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อัตราคนว่างงานประจำเดือน ส.ค. ที่จะประกาศในคืนวันศุกร์จะออกมาดีขึ้นสู่ระดับ 6.1% อาจช่วยยืนยันการฟื้นตัวของภาคแรงงานสหรัฐฯได้
รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมภาคอุตสาหกรรมแลยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ในยุโรปและเอเชียชะลอตัวลงในเดือนสิงหาคม เนื่องจากความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในยูเครน และการฟื้นตัวอย่างเปราะบางของเศรษฐกิจจีน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า การประชุมอีซีบีที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ มีความเป็นไปได้ว่าอีซีบีอาจบอกเป็นนัยถึงแนวทางการดำเนินนโยบายกระตุ้นทางเศรษฐกิจ
ทางด้านนาย วูลฟ์กัง ชอยเบิล รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเยอรมนี ไม่เห็นด้วยกับการที่อิตาลีและฝรั่งเศสสนับสนุนให้อีซีบีออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมากขึ้น เนื่องจากพิจารณาว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในลักษณะขาดดุล จะนำไปสู่การอ่อนตัวทางเศรษฐกิจได้
เศรษฐกิจของประเทศกรีซประจำไตรมาสที่ 2 ชะลอตัวลง 0.3% ถือเป็นระดับการหดตัวที่น้อยที่สุดตั้งแต่ปี 2008 แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ที่ระดับ 0.6% ยังมีความเป็นไปได้
นายเปโตร โปโรเชนโก ผู้นำยูเครน กล่าวหาว่ารัสเซีย ยังคงมีความคลุมเครือและพยายามปกปิดหลักฐานการรุกรานเข้าสู่พื้นที่ของยูเครน หลังจากที่เหตุการณ์ปะทะในหลายพื้นที่บรรเทาลง
สำนักข่าว Bloomberg รายงาานว่า ยูเครน กล่าวว่า ความขัดเเย้งอาจทวีความรุนเเรงมากขึ้นในภาคตะวันออกของยูเครน ขณะที่ผู้นำของกลุ่มกบฏสนับสนุนรัสเซียออกมาบอกว่า อาทิตย์นี้อาจจะมีการเจรจรข้อตกลงเพื่อสงบศึกชั่วคราว
อย่างไรก็ดี อียูและหลายๆฝ่าย ยังคงจับตาไปยังการจัดการของรัสเซีย หลังจากอียู ประกาศให้รัสเซียดำเนินการการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ในยูเครนภายในเวลาที่กำหนด มิเช่นนั้นรัสเซียจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้น
นาย ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการอย่างครอบคลุมเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น รวมถึงปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยให้เทียบเท่ากับอินเดีย เพื่อยกระดับบการลงทุนและการขยายตัว หลังจากมีความกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจ่สงผลกระทบต่อแถบภูมิภาคได้
เช้านี้ ตลาดหุ้นโตเกียวเปิด +0.33% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์
นักบริหารเงินคาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-32.00 บาท/ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดคือการจัดตั้ง ครม. ซึ่งตลาดจับตาว่าครม. ชุดนี้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเช่นไรบ้าง ขณะที่การประชุมอีซีบี และตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯยังเป็นปัจจัยหลักที่ตลาดจับตามอง
ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า กกร.ได้ประเมินเศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้ที่ระดับ 1.5-2.0% เนื่องจากคาดการณ์ว่าภาคการส่งออกไททยจะโตได้เพียง 1.2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 5% ขณะที่การบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น และการลงทุนยังไม่มีแรงผลักดันเศรษบกิจปีนี้เท่าที่ควร
ขณะที่นักวิเคราะห์ ประเมินว่า แรงกดดันเงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 57 เนื่องจากราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลง หลังมีการปรับโครงสร้างพลังงานบางส่วนในวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมไปถึงมาตรการดูแลภาระค่าครองชีพการเดินทาง การตรึงค่าไฟและราคาสินค้าของผู้ประกอบการ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- ตลาด Comex ปิดเนื่องในวันแรงงานสหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
- ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 57.1 คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ระดับ 57.0
-Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4%ตัวจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -0.1%
-Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 52.6 ตัวจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 64.3
-Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 79.2 ตัวจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 82.5
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบ เนื่องจากเมื่อวานเป็นวันหยุดสหรัฐฯ เนื่องในวัน Labor Day จึงไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ และปิดตลาดทรงตัวที่ระดับประมาณ 1,286 เหรียญ และเช้านี้ราคาทองคำร่วงมาที่ระดับ 1,283 เหรียญ เนื่องจากเช้านี้ภาพรวมข่าวโดยทั่วไปภาวะความตึงเครียดเริ่มที่จะสงบลง และ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 795 ตัน สำหรับวันนี้มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจได้แก่ ISM Manufacturing PMI ซึ่งคาดว่าจะแย่ลงเล็กน้อย อาจไม่ส่งผลใดกับราคาทองคำ ขึ้นอยู่กับตัวเลขที่ออกจริง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในระยะสั้นยังมีการแกว่งตัวอยู๋ในกรอบ 1,280-1,290 เหรียญ ยังคงแนะนำให้จับตาดูแนวรับแนวต้าน และทำการซื้อขายบริเวณดังกล่าว ถ้าหลุด 1,280 เหรียญลงมาแนะนำให้ทำ Stop Loss ออกไปก่อน
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรตามการแกว่งตัวในกรอบ 1,280-1,290 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และนักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ บริหารพอร์ตให้เหมาะสมตามการแกว่งของตลาด
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ลงทุนในทิศทางแนวโน้มขาลง
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,700 บาท
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,570 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,770 บาท