กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--IR PLUS
หุ้นทันตกรรมน้องใหม่ LDC ลงเทรดวันแรกตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ สร้างเสียงตอบรับท่วมท้น โดยเปิดการซื้อขายที่ 4.32 บาท/หุ้น พุ่งกว่า 188% จากราคาไอพีโอที่ 1.50 บาท/หุ้น จากนั้น ราคาหุ้นปรับขึ้นชนเพดานสูงสุด (ceiling) ที่ 4.50 บาท/หุ้น หรือ 200% และสามารถปิดตลาดในระดับราคาซิลลิ่งดังกล่าว “ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์” เอ็มดี LDC เป็น ปลื้มสุดๆ หลังราคาหุ้นสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้จองซื้อหุ้นเป็นอย่างมาก และเตรียมเดินหน้าตามแผนขยายสาขาศูนย์ทันตกรรมตามหัวเมืองหลักๆ หวังสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพิ่มศักยภาพการแข่งขันและโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคต ด้าน “สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอสเซส โปร แมเนจเม้นท์ ที่ปรึกษาทางการเงินประสานเสียงกับ “วิชา โตมานะ” แห่ง บล.ฟิลลิป Lead underwrite มั่นใจ พื้นฐาน LDC แข็งแกร่ง มีแผนการลงทุนที่ชัดเจน จึงสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุน ทำให้ราคาหุ้นในวันแรกได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ย้ำธุรกิจทันตกรรมมีแนวโน้มเติบโตสูงตาม เทรนด์การใส่ใจสุขภาพ มั่นใจหุ้น LDC จะได้รับการตอบรับต่อเนื่อง
? ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC ผู้ให้บริการศูนย์ทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางในนามศูนย์ทันตกรรม แอลดีซี ได้กล่าวถึง การเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ของหุ้น LDC วันนี้เป็นวันแรกว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หุ้น LDC ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างท่วมท้น จนราคาหุ้นปรับขึ้นชนเพดานสูงสุดของวัน (Ceiling) ตั้งแต่ช่วงเปิดการซื้อขายในช่วงเช้าจนถึงปิดตลาดการซื้อขายในวันนี้ ที่ระดับราคา 4.50 บาท/หุ้น ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาจองที่ 1.50 บาท/หุ้น ถึงร้อยละ 200
? “LDC หุ้น ทันตกรรมตัวแรกที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างมากมาย ตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดการซื้อขาย ราคาหุ้น LDC ปรับเพิ่มขึ้นถึง 200 % อยู่ที่ 4.50 บาท ต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับราคาเพดานสูงสุดของวันนี้ และยังยืนอยู่ในระดับราคาซิลลิ่งต่อเนื่องจนปิดตลาดที่ระดับราคาดังกล่าว จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะแสดงให้เห็นว่านักลงทุนให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี และมั่นใจธุรกิจทันตกรรมว่ายังเป็นที่น่าสนใจ มองเห็นอนาคต จากการเดินหน้าขยายสาขาตามช่องทางต่างๆ ด้วยรูปแบบความโดดเด่นเรื่องการรักษาและการบริการที่เป็นมาตรฐาน เป็นธงหลักที่เราจะก้าวต่อไปนับจากนี้ควบคู่ไปกับการบริการที่ได้มาตรฐาน สากล” ทันตแพทย์วัฒนา กล่าว
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซส โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินว่า การที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจกับหุ้น LDC อย่างล้นหลาม จนทำให้ราคาหุ้นในช่วงเปิดตลาดและปิดตลาดในราคาที่สูงชนระดับซิลลิ่งนั้น เป็นเพราะธุรกิจทันตกรรมครบวงจรนับเป็นเรื่องใหม่ในตลาดทุนไทยที่มีความน่า สนใจแบบโดดเด่นและปัจจุบันประชาชนใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งพื้นฐานความแข็งแกร่งทางธุรกิจและการบริหารงานของ LDC ยังสร้างความน่าเชื่อถือและความสนใจไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่มีความต่อเนื่อง เห็นได้จากแผนการขยายสาขาของ LDC อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจได้อีกในอนาคต
? “ผมเชื่อมั่นว่าหุ้น LDC เป็นหุ้นที่มีการเติบโตในระยะยาว จากราคาในวันนี้ ถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก เพราะถือเป็นหุ้นธุรกิจทันตกรรมน้องใหม่ตัวแรกของตลาดหลักทรัพย์ แต่นักลงทุนก็ให้ความสนใจและมองเห็นถึงความโดดเด่นในธุรกิจ ทำให้มีกระแสตอบรับที่ดีตั้งแต่ช่วงทำการโรดโชว์ข้อมูล จนมาถึงวันเทรดวันนี้ โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าอุตสาหกรรมทันตกรรมยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ยิ่งถ้ามีแผนการรุกตลาดหรือจับกลุ่มลูกค้าที่ครอบคลุมแบบนี้ยิ่งทำให้การ เติบโตมีแต่จะเพิ่มยิ่งๆ ขึ้นไป ” นายสมภพกล่าว
ด้านนายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น LDC ว่า การที่หุ้น LDC ได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้อย่างน่าประทับใจนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก การกำหนดราคาไอพีโอที่เหมาะสม ประกอบกับจุดเด่นของธุรกิจแอลดีซีเอง ในการเป็นศูนย์ทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางที่ครบวงจร ทั้งเรื่องทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยและได้รับมาตรฐานเรื่องความสะอาดและปลอดภัย เหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นที่สร้างคุณค่าให้กับแอลดีซีทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2557 เปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 4.32 บาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 188 จากราคาจอง 1.50 บาท/หุ้น จากนั้นราคาหุ้นปรับขึ้นมาชนเพดานสูงสุด (ceiling) ที่ 4.50 บาท/หุ้น หรือร้อยละ 200 และสามารถคงระดับราคาดังกล่าวจนปิดการซื้อขายที่ระดับราคาซิลลิ่ง 4.50 บาท/หุ้น ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาจอง IPO ร้อยละ 200 โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 629.29 ล้านบาท