กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
AIT ผู้นำธุรกิจวางเครือข่ายไอทีสารสนเทศ (IT Solutions) เดินเกมรุกตลาดกัมพูชาเต็มสูบ เซ็น MOU กับ First Cambodia ผู้ดำเนินธุรกิจออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในประเทศกัมพูชา เพื่อร่วมพัฒนาตลาดขยายขีดความสามารถการแข่งขัน ขยายฐานลูกค้ารองรับงานจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ลงทุนโครงสร้างด้านไอซีที ที่มีแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดด
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ประเทศกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญในอาเซียนที่ AIT มองเป็นตลาดเป้าหมายที่ต้องการขยายธุรกิจการวางเครือข่ายไอทีสารสนเทศ เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของกัมพูชามีความตื่นตัวในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไอซีที เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการให้บริการลูกค้าและรองรับการแข่งขันหลังจากที่ประเทศในอาเซียนก้าวเข้าสู่ AEC
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัท First Cambodia Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจวางระบบเครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารในกัมพูชาที่เก่าแก่ที่สุด เพื่อพัฒนาธุรกิจการวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในประเทศกัมพูชาร่วมกัน โดย AIT จะนำประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ร่วมพัฒนาตลาดและศักยภาพการให้บริการด้านต่างๆ ผ่านเครือข่าย Cisco เพื่อขยายฐานลูกค้าและสามารถตอบสนองความต้องการด้านเทคโนโลยีด้านไอซีทีให้แก่โครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในประเทศกัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ความร่วมมือกับ First Cambodia ครั้งนี้ เราจะนำ Know how ของ AIT ที่มีศักยภาพและความพร้อมในการดำเนินธุรกิจมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งและขยายฐานลูกค้าร่วมกัน ทำให้ AIT เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านการวางเครือข่ายไอทีสารสนเทศในกัมพูชาอย่างเต็มรูปแบบ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในการขยายฐานลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลต่อการผลักดันรายได้จากธุรกิจในกัมพูชาได้เพิ่มขึ้น” นายศิริพงษ์ กล่าว
ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT กล่าวว่า ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าบริษัทฯ จะทำรายได้ถึง 6,200 ล้านบาทตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับหน่วยงานภาคราชการ รัฐวิสาหกิจอย่าง ทีโอที และ กสท. รวมถึงเอกชนยังลงทุนด้านระบบไอทีเพื่อยกระดับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสเพิ่มมูลค่างานในมือจากปัจจุบัน ณ วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีมูลค่างานในมือ 1,794 ล้านบาท ซึ่งไม่นับรวมงานที่อยู่ระหว่างรอใบคำสั่งซื้อรวมถึงที่อยู่ระหว่างการยื่นแข่งขันประมูลงาน โดยบางโครงการจะทยอยรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังนี้
ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกที่ผ่านมา (มกราคม-มิถุนายน 2557) บริษัทฯ มีรายได้ 4,427.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวม 3,067.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 484.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.3% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 298.4 ล้านบาท โดยจากผลการดำเนินงานงวดดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกจากผลการดำเนินงาน จำนวนหุ้นละ 0.90 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2557