เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวยนตรกรรมหรูเหนือระดับ The new generation CLS พร้อมส่งมอบรถเดือนตุลาคมนี้

ข่าวยานยนต์ Thursday September 4, 2014 16:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--เวิรฟ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยโฉมยนตรกรรมหรูในตระกูล CLS-Class ได้แก่ CLS Coupé รถยนต์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู และ CLS Shooting Brake รถยนต์สปอร์ตแบบ 5 ที่นั่ง นำเสนอรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล จากเส้นสายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และดีไซน์ตอนหน้าที่ถูกออกแบบให้มีความปราดเปรียวมากยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าลายเพชรใหม่ให้บุคลิกชัดเจนในตัวเอง รวมถึงดีไซน์ภายในที่ได้ออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยการผสมผสานความหรูหราแบบร่วมสมัยเข้ากับดีไซน์ทันสมัยสไตล์สปอร์ตเข้าไว้ด้วยกันพร้อมด้วยไฮไลท์สำคัญ อย่าง เทคโนโลยีอันชาญฉลาดของระบบไฟหน้าแบบ “MULTIBEAM LED” ที่ช่วยเปิดมิติใหม่ของระบบไฟส่องสว่าง โดย CLS 250 CDI Exclusive ราคา 4.49 ล้านบาท และ CLS 250 CDI AMG Premium ราคา 4.99 ล้านบาท ส่วน CLS 250 CDI Shooting Brake AMG Premium ราคา 5.09 ล้านบาท นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังพร้อมเอาใจสาวกดาวสามแฉกด้วยข้อเสนอการส่งมอบรถทันทีในเดือนตุลาคมนี้ มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The CLS-Class เป็นรถยนต์ในกลุ่ม Dream Car ที่มีรูปลักษณ์อันโดดเด่นล้ำสมัยด้วยรูปทรงแบบคูเป้ 4 ประตู โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์รถยนต์แบรนด์แรกที่ได้ออกแบบรถยนต์รูปทรงนี้ขึ้นมาด้วยการผสานความสง่างามและปราดเปรียวสไตล์รถคูเป้เข้ากับความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยของรถซาลูนเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา The CLS-Class จึงนับเป็นหนึ่งในรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มคนผู้ประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว และยังคงสนุกกับการใช้ชีวิตอยู่เสมอ” “โดยในครั้งนี้ถือเป็นการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของรถยนต์รุ่น CLS Coupé และ CLS Shooting Brake ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถยนต์ในตระกูล The CLS-Class พร้อมกับการนำเอาเทคโนโลยีไฟส่องสว่างที่ดีที่สุดในปัจจุบัน อย่าง “MULTIBEAM LED” มาไว้ในรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ต้องการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้แก่ลูกค้า และสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ได้เป็นอย่างดี” มร.มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The new generation CLS ทั้ง 2 รุ่น คือ CLS Coupé รถยนต์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู และ CLS Shooting Brake รถยนต์สปอร์ตแบบ 5 ที่นั่ง มาพร้อมกับ ไฮไลท์สำคัญ อย่าง การดีไซน์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบให้มีความสปอร์ต เร้าใจ และล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เส้นสายลวดลายงดงามสไตล์คูเป้อันเป็นเอกลักษณ์, ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED, กระจังหน้าลายเพชร (Diamond radiator grille) ที่มีอยู่ในรถยนต์ กลุ่มคอมแพ็คคาร์ ได้ถูกนำมาติดตั้งอยู่ใน The new generation CLS เพื่อเพิ่มคาแรคเตอร์ให้รถยนต์ 2 รุ่นนี้ดูสปอร์ตและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น รวมถึงกันชนหน้าพร้อมช่องดักลมขนาดใหญ่ และไฟท้ายรมดำเล็กน้อยที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานหลายระดับ ตลอดจนกระโปรงหน้าที่ยาว บานหน้าต่างแคบเรียว กระจกหน้าต่างข้างแบบไร้กรอบและหลังคาที่ลาดต่ำลงซึ่งให้บุคลิกที่ปราดเปรียว โฉบเฉียวกว่าเดิม” “สำหรับดีไซน์ภายในได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยการผสมผสานความหรูหราแบบ ร่วมสมัยเข้ากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว มาพร้อมความพิเศษเฉพาะตัว และพื้นที่ภายในรถยนต์ที่กว้างขวาง รวมถึงประโยชน์การใช้สอยที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลใหม่ในชุดควบคุมระบบมัลติมีเดียหน้าจอขนาด 8 นิ้วที่ได้รับการออกแบบให้ตั้งอยู่อย่างอิสระ เพื่อเพิ่มอารมณ์แห่งความล้ำสมัยให้กับแผงหน้าปัด, พวงมาลัยแบบสามก้านที่ได้รับการออกแบบใหม่, แผงควบคุมหลักที่คอนโซลกลางที่มีปุ่มควบคุมถึง 4 ปุ่ม เป็นต้น” มร.มาร์ทิน กล่าวปิดท้าย สำหรับหลักการทำงานของเทคโนโลยีไฟส่องสว่าง MULTIBEAM LED ที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้คิดค้นพัฒนาขึ้นภายในรถยนต์ The new generation CLS เพื่อให้สามารถปรับลักษณะ การกระจายแสงให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่และสภาพการจราจรอย่างอัตโนมัติ โดยจะมีระบบ Adaptive Highbeam Assist Plus ที่อาศัยกล้องเป็นตัวช่วยในการ ส่งข้อมูลสนับสนุนการทำงานของไฟส่องสว่าง ซึ่งหากระบบตรวจพบแสงจากรถที่ขับขี่สวนทางมาหรือรถยนต์ที่ขับขี่อยู่ด้านหน้า ระบบควบคุมแหล่งกำเนิดแสงจะทำการแบ่งพื้นที่ พร้อมสั่งงานให้ไฟหน้าแบบ LED ที่บรรจุอยู่ในไฟหน้าด้านละ 24 ดวงสามารถทำงานแยกกันแบบอิสระเพื่อส่องสว่างไปยังพื้นที่บางส่วนของถนน และเว้นระยะของลำแสงหลักเพื่อให้มีช่องว่างแคบที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาผู้ขับขี่ของรถคันอื่นๆ รอบตัว แต่ยังสามารถมองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน The new generation CLS - CLS 250 CDI Exclusive มีราคาอยู่ที่ 4,490,000 บาท CLS 250 CDI AMG Premium มีราคาอยู่ที่ 4,990,000 บาท ส่วน CLS 250 CDI Shooting Brake AMG Premium มีราคาอยู่ที่ 5,090,000 บาท และเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า คนสำคัญ หลังจากเปิดตัว The new generation CLS ในวันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะพร้อม ส่งมอบรถได้ทันทีภายในเดือนตุลาคม โดยผู้ที่สนใจสามารถทดลองขับได้ที่ผู้จำหน่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 31 แห่งทั่วประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ