กรุงเทพ--24 ก.พ.--กระทรวงสาธารณสุข
สธ. เน้นปรับการบริหารเวชภัณฑ์ด้วยการจัดซื้อยารวมในระดับจังหวัด คาดว่าจะลดงบประมาณส่วนนี้ได้กว่า ร้อยละ 40 เป็นการลดต้นทุนการให้บริการรักษาพยาบาลลดภาระแก่ผู้ป่วย และช่วยระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
นายรักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าเนื่องจากขณะนี้ประเทศกำลังประสบปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ เป็นผล่ให้ในปี 2541กระทรวงสาธารณสุขได้รับงบประมาณเพียง 59,920.5 ล้านบาท น้อยกว่าปีงบประมาณ 2540ซึ่งได้รับจำนวน 66,544.3 ล้านบาทเศษ
ภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจอาจจะมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั่วไป ทั้งด้านสุขภาพและสุขภาพจิต และภายใต้งบประมาณอันจำกัดกระทรวงสาธารณสุขจำเป็นต้องปรับแผนการดำเนินงานให้มีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุดยังคงให้ประชาชนได้รับบริการด้านการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพที่ดี โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาสุขภาพที่ดีด้วยต้นทุนต่ำเน้นลดค่าใช้จ่ายที่มีผลกระทบต่อด้านบริการน้อยที่สุด เช่น ค่าสาธารณูปโภคการใช้บัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อลดการใช้ยาที่ซ้ำซ้อนและฟุ่มเฟือยการจัดซื้อยารวมเพื่อจะได้ยาราคาถูกลง จากนั้นให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งจัดทำแผนปฏิบัติการสอดรับแผนแม่บท
ในการลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นต้นทุนนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขให้ความสนใจในเรื่องบริหารเวชภัณฑ์มากที่สุด ในปีงบประมาณ 2541 นี้ได้มอบนโยบายให้มีการจัดซื้อยารวมในระดับจังหวัด หากสามารถจัดซื้อยารวมได้เชื่อว่าจะสามารถลดงบประมาณในส่วนนี้ได้ประมาณร้อยละ 40 จากข้อมูลปีงบประมาณ 2540มีรายงานการจัดซื้อยารวม 38 จังหวัด ในวงเงินงบประมาณที่จัดซื้อได้ 189 ล้านบาทเศษสามารถประหยัดงบประมาณได้ จำนวน 57 ล้านบาทเศษ โดยจังหวัดลำปาง จัดซื้อสูงสุด 310 รายการวงเงินงบประมาณ 18.5 ล้านบาท ประหยัดงบประมาณได้ประมาณ 4.4 ล้านบาท นายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ชี้แจงเพิ่มเติมว่า จังหวัดยะลาได้จัดทำแผนพัฒนาสุขภาพที่ดีด้วยต้นทุนต่ำ และมีการปฏิบัติการตามแผนมาตั้งแต่เดือนธันวาคม2540 โดยเน้นการควบคุมการใช้ไฟฟ้าและสาธารณูปโภคอย่างประหยัด การใช้ยาตามบัญชียาหลักการจัดซื้อยารวม จากการติดตามผลพบว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาสามารถลดค่าสาธารณูปโภคได้ร้อยละ 39
สำหรับด้านการบริหารเวชภัณฑ์ได้จัดซื้อยารวมตามบัญชียาหลักแห่งชาติร้อยละ 80 มีการจัดทำกรอบบัญชียารวมของทุกสถานบริการและดำเนินการจัดซื้อยารวม 22 รายการ ในวงเงิน 8.8 ล้านบาทเศษคาดว่าจะสามารถประหยัดงบประมาณในส่วนนี้ได้ 2 ล้านบาทเศษ --จบ--