กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--แม็กซิม่า ตอนซัลแตนท์
แต่ละวันมีกล่องนม กระดาษนิตยสารทิ้งเป็นขยะมากมาย ถ้าเราสร้างคุณค่าให้กลับฟื้นคืนชีวิต หมุนเวียนมาใช้ใหม่ ก็ลดการทำลายป่าไม้จากธรรมชาติ และปัญหาขยะเรี่ยราดก็จะน้อยลง ล่าสุด เยาวชนไฟ ฟ้า โดยทีเอ็มบี และอาสาสมัครทีเอ็มบี นำโดย ภารไดย ธีระธาดา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร สื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ทีเอ็มบี จัดงานส่งมอบโครงการ “ของเก่าสร้างอาชีพใหม่ เฟส 2” คืนความสุข ด้วยการส่งต่อความรู้ สร้างเสริมอาชีพแก่ชาวชุมชนใต้สะพาน (โซน 1) เขตทุ่งครุ เพื่อเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงชุมชนอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Make THE Difference หรือ เปลี่ยน...เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น ณ อาคารไฟ ฟ้า ประชาอุทิศ
นายภารไดย ธีระธาดา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร สื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ทีเอ็มบี เผยว่า “โครงการ “ของเก่าสร้างอาชีพใหม่” เป็นตัวอย่างความสำเร็จที่เยาวชนไฟ ฟ้า ประชาอุทิศ ที่ค้นพบแนวทางเปลี่ยนชุมชนอย่างยั่งยืน โดยนำทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนมาใช้เป็นประโยชน์ เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชน สร้างชุมชนเข้มแข็งขึ้น ด้วยการส่งต่อความรู้ที่ได้เรียนใน ไฟ ฟ้าให้แก่ชาวชุมชน เพื่อให้ให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้ในที่สุด”
โครงการ “ของเก่าสร้างอาชีพใหม่” มีวัตถุประสงค์ที่จะจุดประกายเยาวชนและชุมชนให้เห็นความสำคัญของสิ่งของเหลือใช้ ที่สามารถนำมาเพิ่มมูลค่า สร้างเป็นอาชีพและรายได้ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาชุมชมอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน พร้อมกันนี้ ยังช่วยจัดการปัญหาด้านขยะที่มีจำนวนมากขึ้นในชุมชน โดยนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างประโยชน์ เริ่มต้นจาก เยาวชนไฟ ฟ้าได้ออกสำรวจชุมชนในพื้นที่และพบว่าชุมชนใต้สะพาน (โซน 1) เป็นชุมชนที่ชาวชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพรับซื้อของเก่าและมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้น้อย จึงได้นำความรู้จากวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ ไปร่วมสอนชาวชุมชน ให้รู้จักการนำกล่องนมมาแปรรูปเป็นกระดาษเพื่อผลิต ปกสมุด และนำกระดาษนิตยสารหรือถุงกระดาษเหลือใช้ มาดัดแปลงเป็นที่ใส่นามบัตร ที่สามารถจำหน่ายได้ โดยปีนี้ นับเป็นปีที่ 2 มีการจัดอบรมในหลักสูตร “ของเก่าสร้างอาชีพใหม่ เฟส 2” โดยแบ่งเนื้อหาการอบรมเป็น 2 ส่วนคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้และธุรกิจฉบับชาวบ้าน นอกจากนี้ ไฟ ฟ้า ประชาอุทิศ ยังช่วยส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชนฯ ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า “SA-PAN” โดยนำสินค้าไปทดลองวางขายพร้อมกันเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนศกนี้ ที่ร้านหนังสือเดินทาง ร้านชบาฉาย ร้าน ECO Shop ร้าน M.I.N.D Café ในกรุงเทพฯ รวมไปถึงร้าน JUN JUN จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สนใจผลิตภัณฑ์สามารถติดต่อกลุ่ม SA-PAN ได้ที่โทร. 084-927-2114, 086-784-8408
ทั้งนี้ ภายในงานส่งมอบโครงการฯ เยาวชนไฟ ฟ้า จิตอาสาทีเอ็มบี และชาวชุมชนใต้สะพาน (โซน 1) ต่างร่วมเผยความคิดเห็น อาทิ
นันทนา บุญลออ หรือครูอีฟ คุณครูอาสาสมัครไฟ ฟ้า ประชาอุทิศ และอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เผยว่า “เฟสที่ 2 เราเลือกผลิตภัณฑ์ ที่สามารถขายในท้องตลาดได้จริง คือ สมุดบันทึกทำมือ และที่ใส่นามบัตร จากผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 5 ชนิด ในปีแรก โดยเราพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพิ่มคอลเลคชั่น เรามีการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเยาวชน ไฟ ฟ้า และชาวชุมชน ช่วยกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งรูปแบบ สีสัน แล้วมีดีไซเนอร์มาช่วยในการตัดสินใจ ใช้เวลากันประมาณ 5-6 เดือน กว่าจะได้ข้อสรุป”
เฉลิมศักดิ์ ลีวังษี ประธานชุมชนใต้สะพาน(โซน 1) เผยว่า “ปีที่ผ่านมาเป็นการเริ่มต้น เรายังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงมาก แต่ปีที่ 2 นี้ เราเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้น ที่แน่ๆ รายได้ที่เพิ่มมากขึ้นและขยะที่เป็นกล่องนมในชุมชนลดลงมาก และยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้ชุมชนอื่นๆ นำไปปรับใช้ หรือคิดที่จะสร้างรายได้เพิ่มจากวัสดุเหลือใช้บ้าง”
เบ้น-ณัฐกฤษ บุตตะวงษ์ เยาวชนไฟ ฟ้า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสารสาสน์ประชาอุทิศ พิทยาคาร เผยว่า “ก่อนที่จะสรุปเป็นแบบ เราต้องทดลองกันหลายวิธีหลายแบบ ทั้งสีสัน ขนาด สัดส่วน องค์ประกอบศิลป์ มีการเรียนรู้จากตัวอย่างหลายชิ้น นำไอเดีย ความคิดเห็น คำวิจารณ์ต่างๆ จนสรุปเป็นแบบ ผมอยากให้คนในชุมชน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และนำรายได้มาเป็นกำไรชีวิต”
ฮอล-วงศกร อาจโสม เยาวชน ไฟ ฟ้า นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสารสาสน์ประชาอุทิศพิทยาคาร เผยว่า “แม้ว่าเราจะเป็นแค่คนตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่เราสามารถมาช่วยให้คนในชุมชนได้มีรายได้จากสิ่งที่เราทำ และได้ใช้ความรู้วิชาที่เรียน เราเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชุมชนฯ จากเดิมที่ชาวชุมชนฯ จะใช้เวลาว่างเล่นการพนัน ตอนนี้หันมาทำสมุดทำมือกัน มีกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น มีความรู้ มีรายได้ โดยไม่ต้องหวังพึ่งพาโชคชะตา หรืออบายมุขต่างๆ”
น้องจ๋าย - ญาตาวี ชุ่มชูวงศ์ เยาวชน ไฟ ฟ้า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสารสาสน์ประชาอุทิศพิทยาการ กล่าวว่า “รู้สึกดีมากที่ได้มีโอกาสมาถ่ายทอดความรู้ต่อให้ชุมชนด้วย เหมือนเราได้มาสร้างอาชีพให้คุณป้าทั้งหลาย ได้ช่วยสังคมด้วย ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ได้ทำเพื่อคนอื่นค่ะ”