กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อราษฎรสมาชิกสหกรณ์โคนมเป็นอย่างยิ่ง พระองค์พระราชทานพระราชดำริในการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ โดยยึดหลักการพัฒนาตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะเรื่องของการพึ่งตนเอง ให้ผู้ได้รับการพัฒนามีส่วนร่วมในกิจกรรม มีการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงจนสามารถพัฒนาได้ด้วยตนเอง และทรงติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ยังความทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณต่อเกษตรกรสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมและสหกรณ์โคนมเป็นอย่างยิ่ง พระราชกรณียกิจที่ทรงดำเนินการมีมากมายหลายประการ และเกี่ยวข้องกับสหกรณ์หลายกิจการ และกิจการเลี้ยงโคนมก็เป็นหนึ่งในกิจกรรม ที่พระองค์ทรงสนพระทัยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเป็นกลุ่มที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง เมื่อปี 2528 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินงานของสถานีบำรุงพันธุ์สัตว์สกลนคร ทรงมีพระราชดำริให้จังหวัดสกลนคร ส่งเสริมการเลี้ยงโคนมให้เกษตรกรและจัดทำโรงนมพาสเจอร์ไรส์ เพื่อควบคุมคุณภาพผลผลิตและให้ความรู้ในการดำเนินธุรกิจโรงนม เมื่อได้ผลดีจึงขยายการดำเนินงานในรูปแบบสหกรณ์ต่อไป
จากนั้นจึงได้มีการจัดตั้งศูนย์รวมนมสถานีวิจัยทดสอบพันธุ์สัตว์สกลนครตามพระราชดำริผลิต “นมภูพาน”ทำให้เกษตรกรมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง เป็นแหล่งผลิตอาหารโปรตีนที่มีคุณภาพในพื้นที่ และได้พระราชทานกองทุนเพื่อการศึกษาและฝึกอบรมเพื่อพัฒนาความรู้แก่บุตรหลานของสมาชิกในด้านการเลี้ยงโคนมและการดำเนินงานของศูนย์รวมนม
นอกจากนี้ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมการดำเนินงานของ สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด จังหวัดสกลนคร หลายครั้ง เช่นเมื่อ ปี 2547 ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แก้ไขปัญหาการผลิตของสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด ให้มีการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาการเลี้ยงโคนมของเกษตรกร และพระราชทานความช่วยเหลือในการปรับปรุงพัฒนาทำให้สหกรณ์ฯมีความเจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับ
และเมื่อปี 2540 ที่ผ่านมาสมาชิกสหกรณ์โคนมซับไม้แดง จำกัด อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รายงานปัญหาหนี้สินจากการ เลี้ยงโคนม ต่อมาในวันที่16 มกราคม 2541 พระองค์พระราชทานพระราชดำริให้ส่วนราชการต่างๆ แก้ไขปัญหา ซึ่งต่อมาได้มีการผ่อนผันด้านหนี้สินจากธนาคาร พระราชทานเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากมูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อพัฒนาด้านพืชอาหารสัตว์ จัดหาแม่โคนมเพิ่มในรายที่มีแม่โคนมจำนวนน้อย แก้ปัญหาด้านการจัดการฟาร์ม และทรงติดตามการให้ความช่วยเหลือตลอดมา โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2548 ได้พระราชทานโคนมเพศเมียตั้งท้องจำนวน 9 ตัว ให้สหกรณ์โคนมฯ ซับไม้แดง เมื่อทรงพบว่ามีปัญหาด้านสุขภาพก็มีพระราชกระแสรับสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามแก้ไข วินิจฉัยหาสาเหตุของโรค และให้การรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระทัยเรื่องของอาชีพการเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นการสืบต่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนม ให้กับเกษตรกร และทรงมุ่งมั่นที่จะให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทยสามารถเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพได้ดี มีรายได้มั่นคง สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ อย่างมั่นคงและยั่งยืนกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้น้อมนำพระราชดำริมาดำเนินการด้วยการจัดทำโครงการหลายโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงโคนมและการลดต้นทุนของเกษตรกรเพื่อที่จะให้เกษตรกรสามารถที่จะเลี้ยงโคนมและมีรายได้ มีผลกำไร สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ และสามารถจะขยายฟาร์มของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง
โดยมีการส่งเสริมให้ลดต้นทุนการเลี้ยงลูกโคเพศเมีย ส่งเสริมการทำแปลงหญ้า ผลิตอาหารหยาบให้โคนมในโครงการพัฒนาการเลี้ยงโคนมทดแทนฝูงขึ้นมา ในสหกรณ์โคนมทั้ง 4 ภาคเป็นการนำร่อง ให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการบริหารจัดการฟาร์ม การจัดการแปลงหญ้าและสูตรอาหารโคนมแต่ละช่วงอายุโคนม ขณะเดียวกันทาง สำนักบริหารเงินทุนกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้จัดสรรเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์(กพส.) ในส่วนของโครงการพัฒนาธุรกิจโคนม ที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา และดอกผลจาก กพส. มาสนับสนุนให้สหกรณ์โคนมกู้ยืมเพื่อการพัฒนาการผลิตโคนมของสหกรณ์ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1ควบคู่กันนี้ได้มีการทำข้อตกลงการซื้อขายระหว่างศูนย์นมทั้งประเทศ ทั้งของสหกรณ์ และเอกชนรวมกันกว่า150 แห่ง เป็นโรงงานนม U.H.T และโรงงานนมพาสเจอร์ไรซ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์จัดให้มีการเจรจาซื้อขายกัน ซึ่งที่ผ่านมาสามารถดำเนินการได้ ประมาณ 3,100 ตันต่อวันซึ่ง 70% เป็นน้ำนมที่ผลิตโดยสมาชิกสหกรณ์ ส่วนที่เหลือเป็นของเกษตรกรทั่วไป
และตามที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาน้ำนมล้นตลาด แต่ในปี 2557 กลับตรงกันข้ามปริมาณน้ำนมมีไม่เพียงพอแก่ความต้องการของตลาด จนผู้ประกอบการต้องร้องขอให้มีการนำเข้า นมผงจากต่างประเทศ ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้ประสานกับสหกรณ์ผู้ผลิตน้ำนมโค และเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ทำการผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยอาศัยแนวทางในการดำเนินงานตามโครงการต่างๆ ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปส่งเสริมซึ่งการดำเนินงานในโครงการเหล่านี้จะอยู่ภายใต้แนวทางการวางแผนพัฒนาการเลี้ยงโคนมให้เกิดความยั่งยืนเพื่อสอดรับกระแสพระราชทานให้อาชีพการเลี้ยงโคนมอยู่คู่แผ่นดินไทย และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่วงการสหกรณ์โคนมไทยเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้