กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหน้าอาคารธนาลงกรณ์ทาวเวอร์ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยมีปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (ศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์) ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการ และบุคลากรในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวมอบนโยบายว่า ตนได้วางนโยบายในการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรมไว้ ประกอบด้วย 3 มิติ 8 จุดเน้น และ 3 วิธีการดำเนินงาน โดย 3 มิติ ประกอบด้วย
1. มิติการพัฒนาคน และสังคมในชาติ โดยการส่งเสริมให้คนมีคุณธรรม จริยธรรม และภาคภูมิใจในความเป็นไทย และให้สังคมเป็นสังคมที่เอื้ออาทร มีความสมานฉันท์ 2. มิติของการสร้างการกินดีอยู่ดี และความมั่งคั่งของประเทศชาติ โดยนำมรดกทางวัฒนธรรมที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อขับเคลื่อนรายได้ให้แก่ประเทศชาติ 3. นำวัฒนธรรมมาสร้างเกียรติภูมิของชาติ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับต่างประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับจุดเน้น จำนวน 8 ด้าน ประกอบด้วย
1. ปลูกฝัง ส่งเสริม พัฒนาสังคมไทย ให้เป็นสังคมที่มีความสงบสุข บนพื้นฐานค่านิยมความเป็นไทย 12 ประการ ได้แก่ 1) ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2) รณรงค์อย่างเข้มข้น ในเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต กตัญญูกตเวที 3) การรักษา สืบสานคุณค่าวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของชาติ เช่น การไหว้ แสดงความเคารพ การกล่าวสวัสดี
2. เสริมสร้างการนำศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ในการสร้างสันติสุขสมานฉันท์ในทุกพื้นที่ ได้แก่ ศาสนิกสัมพันธ์ 5 ศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 โรงเรียนและชุมชนคุณธรรม
3. การสร้างภาพยนตร์ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ ความงดงามของศิลปวัฒนธรรม และเผยแพร่วิถีชีวิตของคนไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ
4. การพัฒนาวัฒนธรรมเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สินค้าและบริการ รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมงานวัฒนธรรม เผยแพร่ภาพลักษณ์ความเป็นไทย และรายได้เข้าประเทศ
5. พัฒนาและเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรมเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมต่างๆ ได้แก่อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และ ศิลปวัฒนธรรมของชาติ
6. ส่งเสริมให้มีการใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์กับนานาชาติและการเป็นเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของอาเซียน
7. พัฒนาการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนการสอนด้านศิลปวัฒนธรรมตลอดจนบทบาทของศิลปินแห่งชาติ ศิลปินศิลปาธรและผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม สืบทอดองค์ความรู้ และสืบสานศิลปวัฒนธรรมได้อย่างต่อเนื่อง
8. การผลักดันกฎหมาย ได้แก่ 1) ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ.... 2) ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้พ.ศ. .... 3) ผลักดันมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเงินเพื่อการดำเนินงานด้านวัฒนธรรม ซึ่งมาตรการนี้จะทำให้ผู้บริจาคได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนเป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนที่บริจาค
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการดำเนินงาน จำนวน 3 วิธีการ ประกอบด้วย 1. ต้องซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส 2. ร่วมมือและบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ในรูปแบบของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR - Corporate Social Responsibility) และ3. ส่งเสริมบทบาทของหน่วยงานกระทรวงวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ส่วนภูมิภาค ให้ทำงานร่วมกับท้องถิ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยังกล่าวย้ำอีกว่า จะเร่งผลักดันเรื่องเร่งด่วนเป็นพิเศษอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของรัฐบาล และความคาดหวังของประชาชนต่อกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานในสังกัด โดยจะมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการด้านวัฒนธรรมตามความต้องการของประชาชน เพราะประชาชนเป็นเจ้าของวัฒนธรรม