กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--Index Creative Village
บริษัท บลู มีเดีย คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ในเครือของ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เทคโนโลยี โพรไวเดอร์ (Technology provider) หนึ่งเดียวในเมืองไทย ผู้สร้างนวัตกรรมในการนำเสนอสินค้าในรูปแบบต่างๆ จับมือร่วมกับ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เปิดตัว “ตู้เย็นหน้าจอดิจิตอลโปร่งแสง” ดิจิตอล ทรานส์พาเร้นท์ ฟริดจ์ (Digital Transparent Fridge) สร้างมิติใหม่ให้แก่วงการพร้อมนำทัพบุกธุรกิจสื่ออินสโตร์ มีเดีย (In-store media) พร้อมลุยขยายตลาดทั่วโลก
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) บริษัทครีเอทีฟ อีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก กล่าวว่า “เทรนด์ของสื่อดิจิตอลกำลังเป็นที่จับตามอง และให้ความสนใจ ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงจากเดิม และก้าวทันเทคโนโลยีมากขึ้น สื่อที่สามารถสื่อสารได้สองทาง หรืออินเตอร์แรคทีฟ มีเดีย (Interactive Media) สามารถดึงดูดความสนใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทำให้สื่อดิจิตอลได้รับการยอมรับในวงการโษณาอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น นักการตลาดพยายามคิดค้น หาวิธีการสื่อสารใหม่ๆ ที่น่าสนใจ สามารถสัมผัส ดึงดูด และใกล้ชิดผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อ ณ จุดขาย หรือ อินสโตร์ มีเดีย (In-store media) ที่เป็นสื่อซึ่งใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุด ไม่เพียงแต่สร้างการจดจำในขั้นสุดท้าย แต่ยังกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้า ณ จุดขายได้ดีที่สุดอีกด้วย จากผลการสำรวจ แสดงให้เห็นว่า กว่า 75% ของผู้บริโภค ที่พบเห็นสื่อโฆษณา ณ จุดขาย (In-Store Media) ที่มีความน่าสนใจนั้น จะทำให้กลุ่มผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าแบรนด์นั้นๆ ได้ทันที จึงสามารถกล่าวได้ว่า สื่อ ณ จุดขาย (In-store Media) นี้ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลัก ไม่เพียงแต่จะสามารถช่วยโน้มน้าวการตัดสินใจของลูกค้าได้ แต่ยังคงกระตุ้นการบริโภคได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย”
“สำหรับบริษัท บลู มีเดีย นอกจากการเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี โพรไวเดอร์ (Technology Provider) สำหรับอินสโตร์ มีเดียแล้ว ยังให้บริหารสร้างสรรค์คอนเทนท์ (Content Creator and Management) ทางบริษัทยังเป็นเหมือนผู้ช่วยสร้างสรรค์ด้านกลยุทธ (Strategic Partner) ให้กับลูกค้า เริ่มตั้งแต่การคิดค้นรูปแบบสื่อโฆษณาที่จะนำเสนอต่อกลุ่มเป้าหมาย การวางแผนช่วงเวลา (Time line) สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานด้านการบริการต่างๆ รวมถึงการบริหารเนื้อหา (Content) สำหรับสื่อ ณ จุดขาย (In-store Media) ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากจะสร้างความแปลกใหม่ และความทันสมัย ให้กับตัวสินค้าแล้วนั้น ยังคงช่วยเพิ่ม และกระตุ้นยอดขายของสินค้าให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามมาอีก ด้วย การใช้สื่อโฆษณาในห้างนั้น สามารถทำให้ผู้บริโภค มีเวลาในการจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้า ราคา หรือโปรโมชั่นในการส่งเสริมการขาย ทั้งยังสามารถจับต้อง และทดลองได้ด้วยตนเอง สิ่งเหล่านี้นับเป็น จุดเด่นของ สื่ออินสโตร์ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในด่านสุดท้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่บลูมีเดีย ให้ความสำคัญในการนำมาวางแผน และวางกลยุทธในการทำการตลาดของบริษัท”
นายบูรพาภรณ์ มุสิกสินธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลู มีเดีย คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภายใต้การพัฒนาเทคโนโลยีของ บลูมีเดีย ทางบริษัทได้พัฒนาสื่อดิจิตอล ที่มีความหลากหลายตอบโจทย์การใช้งานในด้านต่างๆ อาทิ เช่น อินเตอร์แอคทีฟ คิออส (Interactive Kiosk) ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ในระบบสัมผัส (Touch Screen) ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่ใช้นั้น ได้ถูกดีไซน์ให้มีระบบการทำงานที่ใช้ได้ง่าย สัมพันธ์กับความต้องการของลูกค้า อีกนวัตกรรมที่กำลังได้รับความสนใจ จากหลายๆ แบรนด์คือ ดิจิตอล ไพรซ์ แท็ก (Digital Price Tag) ที่สามารถติดตั้งไว้ที่ชั้นวางสินค้าต่างๆ ใช้แสดงราคา เสนอวิดีโอโฆษณา และ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ซึ่งนับเป็นอีกวิธีที่สามารถดึงดูดผู้บริโภค และช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์ ณ จุดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพอินเตอร์แอคทีฟ ฟลอล์ (Interactive Floor) การฉายภาพลงบนพื้นจากโปรเจคเตอร์ ซึ่งสามารถดึงดูดให้ผู้คนมีส่วนร่วมได้ ด้วยการทำให้ภาพเกิดความเคลื่อนไหวจากกริยาท่าทางของคน และ ไฮไลท์ที่สุดของนวัตกรรมจาก บลูมีเดีย คือ ดิจิตอล ทรานส์พาเร้นท์ ฟริดจ์ (Digital Transparent Fridge) คือ เทคโนโลยีในการทำตู้แช่เครื่องดื่มปกติที่มีอยู่แบบเดิมๆ มาทำให้มีประโยชน์มากขึ้น โดยการนำจอทีวีใสมาติดตั้ง และใส่เนื้อหาหรือคอนเทนท์โฆษณาของลูกค้า เพื่อสร้างความน่าสนใจโดยนำเสนอสื่อในระบบดิจิตอล และ สนับสนุนการตัดสินใจเลือกบริโภคของลูกค้าได้มากขึ้น ตู้ ดิจิตอล ทรานส์พาเร้นท์ ฟริดจ์ นี้ สร้างโอกาส และ พื้นที่สำหรับการโฆษณา ช่วยโปรโมตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ยังคงไว้ซึ่งความรู้สึกในการสัมผัสผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าเช่นเดิม ในครั้งนี้ บลูมีเดีย ได้จับมือร่วมกับบริษัทชั้นนำระดับโลก อย่าง แอลจี ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ผลิตสื่อสำหรับอินสโตร์ มีเดีย เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการดิจิตอล มีเดีย โพรไวเดอร์ (Digital Media Provider) สำหรับสื่อในเชิงพานิชย์ร่วมกัน”
มร. ยอน โฮ (ไมเคิล) เจิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอลจีมีความภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับบลู มีเดีย และอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ในการเปิดตัวนวัตกรรมต้นแบบของสื่อโฆษณาในระบบดิจิตอล ด้วย “ตู้เย็นหน้าจอดิจิตอลโปร่งแสง” ดิจิตอล ทรานส์พาเร้นท์ ฟริดจ์ (Digital Transparent Fridge) เป็นครั้งแรกของวงการ ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมที่จะสร้างมิติใหม่ให้แก่วงการหน้าจอดิสเพลย์เชิงพาณิชย์ และยังช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การได้ร่วมกับบลู มีเดีย ในครั้งนี้ นอกจากเสริมศักยภาพทางเทคโนโลยีจอดิจิตอลแล้ว เรามั่นใจว่าทั้งแอลจีและบลู มีเดีย จะเติบโต และประสบความสำเร็จไปด้วยกัน พร้อมช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลกของแอลจีอีกด้วย”
นายบูรพาภรณ์ มุสิกสินธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลู มีเดีย คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “จุดเด่นของบลูมีเดียที่ทำให้แบรนด์ต่างๆ ไว้วางใจ คือการที่เราสามารถพัฒนาเทคโนโลยี โดยการใช้ความคิดสร้างสรรค์ กับเทคโนโลยีมาผนวกเข้าด้วยกัน และการศึกษาและเข้าใจผู้บริโภค ความต้องการของนักการตลาด รวมถึงเข้าใจความแตกต่างของสื่อโฆษณาแต่ละประเภท เช่น การลงโฆษณาทางทีวี อาจสามารถวัดผลได้จากเรตติ้งว่ามีจำนวนคนดูมากน้อยแค่ไหน หรือ การเช่าบิลบอร์ดโฆษณา ที่สามารถวัดผลได้ว่าบนถนนเส้นนั้นมีจำนวนรถผ่านเฉลี่ยกี่คันต่อวันนั้น แต่นั่นเป็นเพียงแค่การวัดการรับรู้ของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันไม่สามารถวัดผลได้ว่าเกิดการซื้อจริงหรือไม่ ในขณะที่อินสโตร์ มีเดีย สามารถเปรียบเทียบวัดผลได้อย่างชัดเจน ก่อนที่จะมีการนำสื่อโฆษณา ณ จุดขาย (In-store Media) สินค้าแบรนด์นี้มียอดขายเฉลี่ยวันละกี่ชิ้น หลังจากลงสื่อโฆษณา สื่อ ณ จุดขายแล้ว ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซนต์ หรือ พอยกเลิกการใช้โฆษณา สื่อ ณ จุดขายออกไปแล้ว ยอดขายตกลงหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับเป็นวิธีที่สามารถวัด และได้ตัวเลขที่มีประสิทธิผลกลับมาพัฒนาสื่อ ณ จุดขาย สำหรับแบรนด์ของลูกค้าในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ ในปัจจุบันทาง บลูมีเดีย ยังขยายไปตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียน ไปยังประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงมาเลเซียอีกด้วย”