SET9: ตลาดหลักทรัพย์แถลงผลการประชุมร่วมกับ ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์

ข่าวทั่วไป Wednesday June 10, 1998 14:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--10 มิ.ย.--ก.ล.ต.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2541 ซึ่งมีสาระสำคัญของการประชุมดังนี้
1. การเป็นองค์กรกำกับดูแลตนเอง (Self Regulating Organization : SRO) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
ที่ประชุมเห็นด้วย ในหลักการส่งเสริมให้มีการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์เป็น SRO เต็มรูปแบบ โดยให้มีวิธีการบริหารงานแบบเอกชน มีคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งหมดมาจากการเลือกตั้งของสมาชิกโดยเป็นผู้แทนจากสมาชิกได้เป็นจำนวนถึงร้อยละ 60
ในการกำกับดูแลผู้เกี่ยวข้อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องมีการดำเนินการตามมาตรฐานขั้นต่ำที่ก.ล.ต. เห็นควรและตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้ออกกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติตามหลักการ และนโยบายที่ก.ล.ต.เห็นชอบ
2. ระบบการกำกับดูแลที่ดี (Good Governance)
ที่ประชุมเห็นด้วยในหลักการว่านอกจากการปรับโครงสร้างคณะกรรมการก.ล.ต. ให้มีความเป็นอิสระยิ่งขึ้น และปรับโครงสร้างคณะกรรมการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นองค์กรกำกับดูแลตนเอง (SRO) แล้วเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานควรมีการกำหนดกระบวนการและวิธีการในการได้มาซึ่งกรรมการและเลขาธิการก.ล.ต. รวมทั้งกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างเป็นระบบและโปร่งใส เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของกลไกในการพัฒนาตลาดทุนและสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุนทั่วไป
3. ระบบการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
ที่ประชุมเสนอว่าควรให้มีการออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เพียงใบเดียว ซึ่งอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ทุกประเภท และไม่มีการต่ออายุรายปี รวมทั้งใบอนุญาตการจัดการกองทุนประเภทต่างๆ ทั้งกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล ฯลฯ ควรเป็นใบอนุญาตใบเดียวเช่นเดียวกันนอกจากนั้นอาจให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถดำเนินการในลักษณะของ holding company โดยแยกธุรกิจหลักทรัพย์แต่ละประเภทออกเป็นแต่ละบริษัทย่อย แต่อยู่ภายใต้บริษัทหลักทรัพย์นั้น และเห็นควรยกเลิกการขออนุญาตเปิดสาขา การย้ายสำนักงานหรือการขยายพื้นที่สำนักงาน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้แก่ภาคเอกชน
4. การพัฒนาช่องทางการระดมทุนสำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME)
ที่ประชุมตระหนักถึงความสำคัญของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ต่อระบบเศรษฐกิจ และเห็นควรเปิดโอกาสหรือเพิ่มช่องทางให้ SME สามารถระดมเงินทุนจากตลาดทุนได้ จึงเห็นควรให้มีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ในการออกและเสนอขายหุ้นในตลาดแรก จากระบบเดิมซึ่งพิจารณาจากฐานของความเหมาะสม (Merit-based) เป็นพิจารณาจากฐานความเพียงพอของการเปิดเผยข้อมูล (Disclosure-based) และให้มีการสร้างความรู้ความเข้าใจว่า ผู้ลงทุนจะต้องศึกษาข้อมูลของบริษัทและใช้วิจารณญาณของตนเองในการตัดสินใจลงทุนขณะเดียวกันหน่วยงานที่กำกับดูและ จะต้องมีการออกกฎเกณฑ์ และการบังคับใช้กฎเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลอย่างเข้มงวด เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน
5. การยกเลิกข้อจำกัดการถือหุ้นของผู้ลงทุนต่างประเทศ
ที่ประชุมได้เสนอให้ยกเลิกข้อจำกัดในการถือหุ้นของผู้ลงทุนต่างประเทศเป็นการทั่วไป เพื่อดึงดูดให้มีการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่ธุรกิจไทยมีความจำเป็นต้องอาศัยเงินทุนจากต่างประเทศจำนวนมาก ในการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาวะวิกฤต ในส่วนของตลาดทุน ควรเปิดเสรีเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ และการมีสิทธิออกเสียงในบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียน โดยผลักดันให้มีการยกเลิก ข้อจำกัดการถือหุ้นของชาวต่างชาติในบริษัทไทย
6. การยกระดับมาตรฐานของผู้บริหารธุรกิจ
ที่ประชุมเสนอให้ยกระดับมาตรฐานของผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ โดยกำหนดให้มีการออกใบอนุญาตของผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ หรือให้ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรที่กำหนด ในเรื่องความรู้ที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจ เพื่อสร้างคุณภาพของผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ ในระดับที่เป็นที่ยอมรับ และเชื่อมั่นของสาธารณชน และป้องกันความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ และธุรกิจหลักทรัพย์ในอนาคต
ประเด็นปัญหาและข้อคิดเห็นต่างๆ จากที่ประชุมร่วมเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการต่อไปในการปรับปรุงเกี่ยวกับกฎระเบียบและการปฏิบัติงาน รวมทั้งการหาแนวทางการแก้ปัญหาที่มีอยู่เพื่อให้ตลาดทุนของไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน และพัฒนาต่อไปในอนาคตอย่างมั่นคง--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ