กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โชว์ศักยภาพในนามประเทศไทยโดยการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม “The 15th Term ASEAN Federation of Plastic Industries Conference” (2012-2014) การประชุมผู้ประกอบการพลาสติกอาเซียนครั้งที่ 15 ภายใต้แนวคิด “ASEAN Plastics Unity, Key to Sustainable Future” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 22 ตุลาคม 2557 ณ Centara Grand at Central Plaza Ladprao Hotel ชี้!! มั่นใจมูลค่าส่งออกอุตสาหกรรมพลาสติกไทยครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น แนะภาครัฐควรหันมาให้การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมพลาสติกในการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์พลาสติกอย่างจริงจัง
ASEAN Federation of Plastic Industries (AFPI) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2524 จากความร่วมมือของภาคเอกชนในอุตสาหกรรมพลาสติกในอาเซียน ได้แก่ the Indonesia Olefin, Aromatic and Plastic Industry Association (INAPLAS), the Malaysian Plastics Manufacturers Association (MPMA), the Myanmar Plastic Industries Association(MPIA), the Philippine Plastics Industry Association Inc. (PPIA), the Singapore Plastic Industry Association (SPIA), the Plastic Industry Club, Federation of Thai Industries(PC-FTI) and the Vietnam Plastics Association (VPA) ตลอดระยะเวลา 33 ปี จนถึง ณ ปัจจุบัน ถือเป็นเวทีสำคัญของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมพลาสติกในภูมิภาคอาเซียนที่มีบทบาทในการยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความเสมอภาคของอุตสาหกรรมพลาสติก ทั้งนี้ ได้กำหนดให้มีการจัดประชุมคณะกรรม (AFPI Council Meeting) เป็นประจำทุกปีหมุนเวียนไปในแต่ละประเทศสมาชิก ทั้งนี้ การประชุมใหญ่สมาชิก (AFPI Conference) ได้กำหนดทุกๆ 2 ปี เพื่อที่สมาชิกจะได้มาแลกเปลี่ยนมุมมอง ข้อมูล ข่าวสาร และหารือประเด็นสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลาสติก อาทิ ประเด็นทางการค้า FTA ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาแรงงาน การอบรมทักษะฝีมือแรงงาน การพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงประเด็นด้านมาตรฐานสินค้า ฯลฯ โดยสำนักงานเลขาธิการ (Secretary-General of AFPI) ปัจจุบันประจำการอยู่ ณ ประเทศสิงคโปร์
นายเอกสิทธิ์ เจริญกิจขจร รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สายงานต่างประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 1 ปีข้างหน้า การจัดการประชุมในครั้งนี้จึงเพื่อเน้นย้ำความร่วมมือด้านการค้าและพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมพลาสติกเพื่อนำไปสู่การขยายตัวทางการค้าในภูมิภาคต่อไปภายใต้แนวคิด “ASEAN Plastics Unity, Key to Sustainable Future” ทั้งนี้ ภายในงานประชุมดังกล่าว นอกจากผู้เข้าร่วมงานจะได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกล่าสุดของอุตสาหกรรมพลาสติกอาเซียนแล้ว ยังได้รับฟังบรรยายพิเศษในหัวข้อ “The Future of ASEAN and Opportunity Industries” จาก ดร.คณิต แสงสุพรรณ ประธานกรรมการวิชาการ มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ผู้คร่ำหวอดในแวดวงเศรษฐกิจการเงิน และหัวข้อที่น่าสนใจอื่นๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ในวงการพลาสติกอีกหลายท่าน โดยการจัดการประชุม “The 15th Term ASEAN Federation of Plastic Industries Conference (2012-2014) ที่ไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 22 ตุลาคม 2557 ณ Centara Grand at Central Plaza Ladprao Hotel, กรุงเทพฯ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดโดยตรงได้ที่ฝ่ายประสานงานกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก ส.อ.ท. โทรศัพท์ 0-2345-1006
ด้าน นายฐิติธัม พงศ์พนางาม เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกฯ ได้กล่าวถึง ภาพรวมการนำเข้า และส่งออกพลาสติกทั้งหมดในส่วนของเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ในปีที่ผ่านว่าในปี 2556 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการนำเข้ารวมอยู่ที่ 247,105 ล้านบาท มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 12% โดยเป็นเม็ดพลาสติก 133,682 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์พลาสติก 113,423 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการส่งออกมีมูลค่า 379,728 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 12% มาจากเม็ดพลาสติก 270,729 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์พลาสติก 108,999ล้านบาท โดยสถิติการนำเข้า-ส่งออกใน 5 อันดับแรก ของผลิตภัณฑ์อยู่ในกลุ่มของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์
“สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค. มีมูลค่าการนำเข้ารวมอยู่ที่ 152,570 ล้านบาท มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยมีแหล่งนำเข้าสำคัญคือ จีน ญี่ปุ่น อเมริกา แยกเป็นการนำเข้าเม็ดพลาสติก 80,818 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์พลาสติก 71,752 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าการส่งออกรวม 254,441 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 18% ซึ่งประเทศส่งออกที่สำคัญคือ จีน อเมริกา และญี่ปุ่น แยกเป็นการส่งออกเม็ดพลาสติก 184,191.76 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์พลาสติก 70,248 ล้านบาท ทั้งนี้หากคิดเป็นราคาเฉลี่ย (บาท/ตัน) พบว่าอุตสาหกรรมพลาสติกนำเข้าเม็ดพลาสติกเฉลี่ยที่ 75,431.32 บาท/ตัน ขณะที่การส่งออกเม็ดพลาสติกเฉลี่ยที่ 54,686.11 บาท/ตัน เช่นเดียวกับราคาเฉลี่ย (บาท/ตัน) การนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ 210,981.70 บาท/ตัน และการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก 109,019.76 บาท/ตัน แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังคงมีการนำเข้าสินค้าที่มีราคาสูง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐควรหันมาให้การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมพลาสติกในการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์พลาสติกอย่างจริงจัง” นายฐิติธัม กล่าวทิ้งท้าย