กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
Biomass Pellet ธุรกิจหมื่นล้านที่เมืองไทยเราได้เปรียบทั้งด้านภูมิศาสตร์ ความสามารถในการผลิตเครื่องจักร และเป็นศูนย์กลาง Logistics ในอาเซียน อีกทั้งยังล้อมรอบไปด้วยกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) ซึ่งทั้ง 4 ประเทศเพื่อนบ้านล้วนมีความหลากหลายทางชีวภาพไม่แพ้คนไทย โอกาสจึงเป็นของผู้ที่มีความพร้อมก่อน ธุรกิจเกษตร-พลังงานอย่าง Biomass Pellet จะเดินหน้าฝ่า วงล้อมทางความคิดของการเมือง สู่เป้าหมายปากท้องและบูรณะธุรกิจที่เสียหายจากผลทางการเมือง
เกษตร-พลังงาน พันธุ์แท้อย่างชีวมวลอัดแท่ง (Biomass Pellet) ปัจจัยสู่ความสำเร็จมี 3 ประการ คือ 1.ตลาด และราคา 2.ประสิทธิภาพเครื่องจักร และ 3.ชีวมวลที่ใช้เป็นวัตถุดิบ ตลาดและราคานาทีนี้หมดปัญหา ผู้ซื้อมากรายในราคาตลาดโลก ($145-155 USD/ ตัน) มารอรับซื้อถึงหน้าโรงงาน เครื่องจักรกลสำหรับนำมาผลิต ก็มีให้เลือกตั้งแต่ของไทยจนถึงนำเข้าจากประเทศจีน และเกรดพรีเมี่ยมจากฟากยุโรป สำหรับบทความฉบับนี้ ขอนำท่านไปคุยกับปรมาจารย์ด้านการปลูกพันธุ์ไม้โตเร็วมาตลอดชีวิตราชการ และเยี่ยมชมโรงงานผลิต Biomass Pellet คุณภาพไทยทำ ที่ผลิตเพื่อส่งออกมานานปีกันดีกว่า
เกษตรพลังงานอย่าง Biomass Pellet อาจเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะต้นๆ และจะชลอตัวลงเนื่องจากหาวัตถุดิบยากขึ้น ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น หากภาครัฐไม่มีการส่งเสริมการปลูกอย่างเป็นระบบ กำหนด Rood Map การใช้ที่ดินอย่างเหมาะสม ก็จะส่งผลกระทบกับพืชเศรษฐกิจทั้งระบบ ประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกจำกัด และมีที่ของรัฐที่ถูกชาวบ้านบุกรุกใช้ประโยชน์มากมาย ไทยเราควรเลือกปลูกพืชที่ตลาดต้องการ เราไม่จำเป็นต้องครองอันดับ 1 ในการส่งออกพืชใดๆ แต่ส่งออกพืชที่ตลาดต้องการเท่านั้น จะได้ตัดปัญหาการประกันราคา หรือจำนำออกไปจากภาคเกษตรอย่างยั่งยืน สู่เกษตรอุตสาหกรรม และเกษตรพลังงาน