กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--ดับเบิ้ลพราว
ยูวีปลื้ม ผลประกอบการครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 2,769 ล้านบาท พลิกเป็นกำไร 173 ล้านบาท ลั่นบริษัทลงตัว เตรียมงบซื้อที่ดินพัฒนาโครงการแนวสูงอีก 3 แปลง
นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV เปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกว่า มีรายได้รวม 2,769 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,205 ล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งปี 2556 หรือเติบโตกว่าร้อยละ 77 ซึ่งกำไรอยู่ที่ 173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีก่อนร้อยละ 207 แบ่งสัดส่วนของรายได้มาจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 1,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,070 ล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้รวมครึ่งปี ร้อยละ 54
แบ่งเป็นโครงการแนวสูงจาก บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ดิเวลล็อปเมนท์ 696 ล้านบาท จาก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ ยูดีไลท์ 3 ประชาชื่น-บางซื่อ, โครงการ ยู ดีไลท์ เรสซิเดนซ์ พัฒนาการ-ทองหล่อ และโครงการ คอนโด ยู @ หัวหมาก สเตชั่น ทั้งนี้บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 3,332 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 82 ของรายได้ มีเป้าหมายที่ 4,400 ล้านบาท
โครงการแนวราบของบริษัทกลุ่มแผ่นดินทอง มูลค่ารวม 812 ล้านบาท จาก 3 โครงการ คือ โครงการ โกลเด้น วิลเลจ บางนา – กิ่งแก้ว, โครงการ โกลเด้น อเวนิว แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ และ โครงการ โกลเด้น ทาวน์ ปิ่นเกล้า - จรัญสนิทวงศ์
มาจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า 612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากครึ่งปีก่อน 28 ล้านบาท รายได้ครึ่งปีแรกรวม คิดเป็นร้อย 22 ของรายได้รวม โดยมีรายได้จากอาคารสำนักงานเกรดเอ ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ จำนวน 163 ลัานบาท ซึ่งมีอัตราการเช่าเต็ม 100% ของพื้นที่ให้เช่า และอัตราค่าเช่าเฉลี่ยที่ 839 บาทต่อตารางเมตร และอาคารของกลุ่มบริษัท แผ่นดินทอง 449 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้หลักมาจากอาคารสาทร สแควร์ ซึ่งมีอัตราการเช่าร้อยละ 78 ของพื้นที่ให้เช่า และ อัตราค่าเช่าเฉลี่ยที่ 676 บาทต่อตารางเมตร
และมาจากธุรกิจผลิตสังกะสีอ๊อกไซด์ 617 ลบ.เพิ่มขึ้น จากครึ่งปีก่อน 102 ล้านบาท รายได้ครึ่งปีรวม คิดเป็นร้อยละ 22 ของรายได้ โดยมียอดขาย 9,023 ตัน
นอกจากนี้วางงบซื้อที่ดินสำหรับโครงการแนวสูง 1,000 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 400 ล้านบาท คงเหลือ 600 ล้านบาท โดยมีแผนจัดซื้อที่ดิน 3 แปลงภายในไตรมาส4 นี้ สำหรับโครงการแนวราบมีงบประมาณ 2,600 ล้านบาทใช้ไปแล้ว 2,100 ล้านบาท เหลือ 500 เพื่อเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ในปีหน้า
อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้าผลประกอบการรายได้ปีนี้ไว้ที่ 9,170 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณร้อยละ 51 จากปีก่อน โดยรายได้หลักยังมาจาก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประมาณ 6,340 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและธุรกิจผลิตสังกะสีอ๊อกไซด์ 1,330 ล้านบาท และรายได้จาก zinc 1,300 ล้านบาท
นายวรวรรต กล่าวต่อว่า การที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น เปรียบเทียบกับครึ่งปีก่อน มีสาเหตุหลักจากการรับรู้รายได้ที่ปรับตัวดีขึ้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บวกกับความสำเร็จในการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไป นอกจากนี้ สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มเข้าสูภาวะปกติ บริษัทจึงวางแผนเปิดโครงการแนวราบเพิ่มเติมโดยเน้นความหลากหลายคลอบคลุมตลาดกลางถึงบน รวมทั้งวางงบประมาณทางการตลาดในการกระตุ้นยอดขายโครงการแนวสูงควบคู่ไปด้วย เพื่อให้การรับรู้รายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้