กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
Q บทบาทและคาแรกเตอร์ใน “ฟินสุโค่ย”
ในเรื่อง “ฟินสุโค่ย” ติ๊ก็รับบทเป็น “หมูแฮม” ก็จะเป็นผู้หญิงออกแนวห้าวๆ แล้วก็เป็นเพื่อนสนิทกับหนูนา (รับบทโดย สายป่าน) หมูแฮมก็จะคอยอยู่เคียงข้างหนูนาตลอด แล้วก็ช่วยทำความฝันของหนูนาที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับมาโกโตะให้เป็นจริง ซึ่งลึกๆในใจหมูแฮมก็แอบรู้สึกกับหนูนาเกินเพื่อนมาตลอด แต่ไม่กล้าบอกออกไป
Q คาแรกเตอร์ของ “หมูแฮม” ต่างจากบทบาทที่ได้ที่เคยได้รับมาอย่างไร
คาแรกเตอร์ของหมูแฮมก็จะแตกต่างจากบทบาทที่ติ๊เคยเล่นมาตรงที่ จะดูโต แล้วก็ลุยๆ มากขึ้น ที่ผ่านมาเราก็จะเล่นเป็นวัยรุ่น วัยใสๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่เรื่องฟินสุโค่ย บทเป็นหมูแฮมก็จะโตขึ้นจากเรื่องเดิมๆ คือเป็นเรื่องความสัมพันธ์จริงๆ ของวัยรุ่นที่เกิดขึ้นในหนัง
Q ส่วนตัวมีความรู้สึกท้าทายหรือกดดันกับการมาแสดงหนังเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
ความท้าทายของติ๊คิดว่าหนังเรื่องนี้มีอารมณ์และทิศทางของหนังที่ค่อนข้างซับซ้อนมากขึ้น คือมันมีความครบรสทั้งสุข เศร้า เหงา ซึ้ง แล้วก็มีการแสดงอารมณ์ที่แตกต่างจากที่ติ๊เคยแสดงมา ที่สำคัญคือมีเลิพซีนที่รับรองคนดูต้องเซอไพรซ์แน่นอน แต่ขออุบไว้ก่อน แล้วกับการต้องมาร่วมงานกับ คุณมาโกโตะ ก็มีเกร็งๆ เหมือนกันนะ เพราะเขาเป็นร็อคสตาร์ระดับเอเชีย เป็นซุปเปอร์สตาร์ ที่เรารู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ เลย ที่ติ๊ชอบมาก คือการ์ตูนลูซิเฟอร์ คือจะมีทั้งวงเลย แล้วก็มีพระเอกของเรื่องก็คือมาโกโตะ พอเราอ่านการ์ตูนก็คือภาพในหัวเราคือเขาหล่อมาก แล้ววันนี้เราจะได้เล่นหนังกับเขาแล้ว ก็ปลื้มค่ะ แล้วที่ติ๊ตื่นเต้นมากเลยคือการต้องมาร่วมงานกับพี่กอล์ฟ ก็ดีใจมากเลยที่ได้ร่วมงานกับพี่กอล์ฟ ทั้งเกร็งด้วย แล้วก็ดีใจด้วย คือเราจะได้ร่วมงานกับผู้กำกับที่เก่ง แล้วก็ได้รางวัลมาเยอะ มันก็หลากหลายความรู้สึกเลยค่ะที่ได้มาร่วมงานกับพี่กอล์ฟ
Q เรื่องราวของ “ฟินสุโค่ย”
ก็เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าหนูนา(สายป่าน) ซึ่งมีแฟนอยู่แล้วก็คือเสือโคร่ง (เต๋า เศรษฐพงศ์) แต่ตัวหนูนา ชอบแล้วก็เป็นแฟนคลับของมาโกโตะ พอมาโกโตะได้เข้ามาเปิดคอนเสิร์ต แล้วก็มาหานางเอกเอ็มวีที่เมืองไทย หนูนาก็พยามทำทุกอย่างให้บรรลุความฝันที่จะได้ไปอยู่ใกล้ๆ กับมาโกโตะ แล้วฝันก็เป็นความจริง แต่พอได้ใกล้กันอย่างที่ฝันแล้ว ความสัมพันธ์กับแฟนตัวเองและกับเพื่อนในกลุ่มที่มีอยู่ ทั้งหมูแฮม (ติ๊นา) กับ ไก่โต้ง (กาย) ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น ที่ผลมาจากความฟินของหนูนา มันก็อลวนวุ่นวายกันไปหมด แต่จะลงเอยยังไง ต้องไปหาคำตอบกันในหนัง
Q พูดถึงการทำงานกับผู้กำกับมากฝีมือ “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์”
ตอนแรกที่ทำงานกับพี่กอล์ฟ ก็รู้สึกเกร็งเหมือนกัน เพราะเคยเห็นผลงานของพี่กอล์ฟที่ผ่านมาก็ค่อนข้างจะมีการแสดงที่เข้มข้นมาก แต่พอเจอกันพี่กอล์ฟเป็นคนใจดี แล้วก็เก่งมากๆ คือก่อนจะถ่ายทำทุกครั้งเราต้องมีการเวิกช็อพกันก่อน เพื่อให้นักแสดงอินกับตัวละคร และมีความสนิทสนมกันก่อน อย่างบางฉากที่มันยากๆ เป็นฉากดราม่า หรือฉากโรแมนติกต่างๆ เราจะลองเล่นกันตอนเวิกช็อพก่อน เผื่อจะมีการปรับแก้ก่อนที่เราจะต้องไปถ่ายทำจริงๆ เวลาที่เราสงสัยอะไร พี่กอล์ฟ เค้าก็จะให้คำแนะนำเรากลับมา ทำให้เราอินกับตัวละครมากขึ้นกว่าเดิมด้วยวิธีการกำกับของพี่กอล์ฟ ติ๊มองว่าพี่กอล์ฟเป็นผู้กำกับที่เก่งมาก ไม่ว่าจะเป็นมุมของภาพ ทุกคนก็จะสวยหมดเลยทุกมุม ก็น่าจะเรียกความฟินออกมาได้ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีของติ๊ที่ได้มาร่วมงานกับพี่กอล์ฟ
Q พูดถึงการทำงานร่วมกับร็อคสตาร์เอเชีย “มาโกโตะ โคชินากะ”
เจอกันวันแรกติ๊ไม่กล้าเข้าไปคุยกับเขาเลย เพราะเราก็พูดภาษาเขาก็ไม่ได้แต่พอได้คุยกันมาโกโตะ เขาเป็นคนที่น่ารักแล้วก็เฟรนด์ลี่มาก เขาเข้ามาชวนเราคุยก่อนก็เลยหายเกร็ง ที่ประทับใจมาโกโตะคงเป็นฉากใหญ่ที่เป็นคอนเสิร์ตของมาโกโตะ เราก็รู้สึกว่าเขาร้องเพลงมาจากอินเนอร์จริงๆ คือเราดูแล้วรู้สึกสนุกไปกับเพลงจริงๆ สมกับที่เขาเป็นร็อคสตาร์ที่เป็นไอดอลของใครหลายๆ คน
Q พูดถึงการทำงานกับ “สายป่าน-อภิญญา” ,“กาย-นวพล”, “เต๋า-เศรษฐพงศ์” ที่เล่นเป็นกลุ่มเพื่อนกัน
ก็สนุกสนานกันดีค่ะ คือสนิทกันตั้งแต่ตอนเวิกช็อพ คือป่าน เต๋า กาย เขาเป็นคนที่เฟรนด์ลี่อยู่แล้ว ด้วยความที่อายุเราใกล้เคียงกัน ก็เลยสนิทกันเร็ว แต่สายป่านจะเป็นหัวโจกของกลุ่มเลย เราก็จะคอยรุมแกล้งกาย เพราะเขาเป็นคนที่น่าโดนแกล้งที่สุด จำได้ว่าพวกเราไปถ่ายที่ห้าแยกชิบูยะ ประเทศญี่ปุ่น ฉากนั้นสนุกมาก พอไฟแดงปุ๊บ เราก็ต้องรีบวิ่งไปที่กลางแยก คือวุ่นวายมาก อย่างตอนที่เราต้องไปถ่ายกันที่เอโดะวันเดอร์แลนด์ ก็เป็นเมืองโบราณแล้วพอเราไปถึง ปุ๊บเราก็ต้องเปลี่ยนชุดเป็นซามูไร แล้วกายเขาก็จะเหมือนเด็กๆ หน่อย คือชอบมากเลยชุดซามูไร กายก็จะดูแฮปปี้อยู่คนเดียวเลย แล้วถือดาบฟันเล่นกัน เรียกว่าก็สนิทกันไปเลยพอถ่ายหนังเรื่องนี้เสร็จ
Q พูดถึงประสบการณ์ที่ทีมงานบุกกันไปเก็บบรรยากาศความฟินกันถึงญี่ปุ่น
สำหรับที่ญี่ปุ่นเราก็ไปถ่ายทำกันหลายที่ ทั้งโตเกียว เกียวโต สะพานชินเคียว เอโดะวันเดอร์แลนด์ ที่ชิบูย่า แล้วก็น้ำพุร้อนออนเซ็น ทุกที่พวกเราก็จะสนุกมากแล้วก็ฟินมาก คือเวลาไปกันเราจะยกกันไปทั้งกองเลย ไปถึงวันแรกติ๊คิดว่าเราจะได้กลับโรงแรมแล้ว ที่ไหนได้ไปถึงแล้วเปลี่ยนเป็นชุดซามูไร เข้าฉากกันเลย แล้วอากาศก็หนาวมาก ตอนที่ไปถ่ายน้ำพุร้อนตอนแรกก็คิดว่ามันจะหนาว พอลงไปแช่สักสิบนาที ก็เริ่มร้อน ตัวเริ่มแดงเพราะตัวมันเริ่มร้อนจริงๆ ส่วนข้างบนก็เริ่มมีหิมะตกลงมา ก็ขึ้นๆ ลงๆ น้ำอยู่บ่อยก็สนุกดีค่ะ แต่เห็นภาพทุกฉากที่ไปถ่ายกันมาแล้วสวยมากๆ เลย ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีของทุกคนด้วย
Q มีฉากไหนที่ยากสำหรับเราเป็นพิเศษหรือเปล่า
ฉากที่ยากของติ๊ ก็น่าจะเป็นฉากที่ต้องร้องเพลง และต้องดีดกีตาร์ไปด้วย ตอนที่ร้องเราก็ต้องแสดงอารมณ์เหมือนกับที่ตัวหมูแฮมรู้สึก แล้วเราก็เกร็งเพราะกีตาร์เราก็เล่นไม่เป็น แล้วเราก็ต้องไปเรียนทั้งเล่นกีตาร์ เรียนทั้งร้องเพลง คือมันต้องทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ก็ถือว่ายากพอสมควร แต่พี่กอล์ฟก็คอยแนะนำ บอกเทคนิคในการเล่นฉากนี้ จนผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
Q พูดถึงเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ที่มีชื่อว่า “ไม่สนิท” ที่ติ๊นาได้ร้องเอาไว้
สำหรับเพลงไม่สนิทในหนัง ติ๊นาก็ได้ร้องเอาไว้ เป็นเพลงประกอบด้วย ก็หนักใจเหมือนกันเพราะเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (หัวเราะ) เนื้อเพลงก็จะเกี่ยวกับการได้ไปแอบรักเพื่อน เหมือนตามเนื้อเพลงเลยที่ร้องว่า “หากเธอรู้ว่าฉันรัก เธอจะรักฉันบ้างมั้ย ไม่สนิทใจ จะเป็นเพื่อนกัน” คือเหมือนในหนังเลย คือโดนหลายๆ ตัวละครในหนังเรื่องนี้ ที่แอบจิ้น แอบฟิน กันอยู่ในใจแต่ไม่กล้าบอกออกไป
Q สำหรับตัวเราแล้วเวลานึกถึงใครที่ทำให้ฟินที่สุด
ถ้าพูดถึงความฟิน ติ๊จะนึกถึงพ่อกับแม่ เพราะเข้าให้เราได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความรัก อะไรที่เราต้องการเขาจะหามาให้ทุกอย่าง แบบไม่เหน็ดไม่เหนื่อยเลย พ่อกับแม่นี่แหละคิดถึงเมื่อไหร่ก็มีความสุขสุดๆ แล้ว ถ้าในชีวิตจริงเราต้องมีแฟนที่เป็นศิลปินแบบในเรื่องเราจะทำยังไง
Q ถ้าชีวิตจริง มีแฟนที่เป็นติ่งศิลปินแบบหนูนาในหนังเรื่องนี้ ติ๊นาจะทำอย่างไร
ตอนแรกก็คงยังไม่เข้าใจ ถ้าไปเจอแบบหนูนาในหนังก็คงไม่เข้าใจว่าอะไรขนาดนั้น อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับแฟนของหนูนาที่ไม่ชอบให้ไปตามติดตามขนาดนั้น แต่ถ้าเราห้ามหรือเปลี่ยนแปลงอะไรเค้าไม่ได้ อย่างตัวเราเองก็อยู่ในฐานะที่มีคนมาคอยให้กำลังใจคอยมาเชียร์ ก็เข้าใจเรื่องแบบนี้ดีนะ เพราะตั้งแต่เล่นหนังเรื่องแรก มาจนถึงตอนนี้ก็สี่ปีแล้ว แล้วแฟนก็อยู่กับเรามาตั้งแต่ก้าวแรกเลย ก็อยากจะขอบคุณแฟนๆ ที่เดินร่วมทางกันมา ตั้งแต่แรกจนมาถึงวันนี้ คือเราไม่คิดว่า นอกเหนือจากครอบครัวเราแล้วจะมีคนอื่นที่มารักเราขนาดนี้ ก็อยากจะขอบคุณมากๆ เลย
Q ในฐานะที่พี่กอล์ฟ เป็นผู้กำกับที่มักนำสอดแทรกมุมมองความรักได้ดี และโดนใจ คนดูอยู่เสมอ ในเรื่องนี้ ติ๊นา คิดว่าผู้กำกับได้สอดแทรกอะไรเข้าอยู่ในหนัง
ติ๊คิดว่าในฟินสุโค่ย ก็มีแง่มุมความรักอยู่หลายแง่มุมเลย ทั้งการแอบรัก การรักไปแล้ว รักแล้วก็เจ็บ คือความสัมพันธ์ของคนที่เป็นแฟนกัน ก็อยากให้ทุกคนเข้าไปค้นหาดูว่ามุมมองความรักในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
Q ฝากภาพยนตร์ “ฟินสุโค่ย”
ติ๊นา ก็อยากจะขอฝากภาพยนตร์เรื่อง ฟินสุโค่ย 25 กันยายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์ แน่นอน รับรองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุฯผิดหวังอย่างแน่นอน แล้วที่สำคัญคือมีครบทุกรส ไม่ว่าจะเป็น ความรัก เหงา เศร้า หัวเราะ ดราม่า ก็อยากให้ทุกคนลองไปดู และเปิดใจให้กับความรักที่หลากหลายในหนังเรื่องนี้ แล้วที่สำคัญในหนังเรื่องนี้ ติ๊นาก็ต้องทำในสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนแน่นอน ฟินสุโค่ย 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ